IYF World Camp Thailand Volunteers

แม้ว่างาน 2019 IYF World Camp Thailand จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่กลิ่นอายแห่งความสุขยังไม่จางหาย สมกับสโลแกนของงานที่บอกว่าเป็นค่ายที่มีความสุขที่สุดในโลก โดยตลอดทั้ง 3 วันที่ผ่านมา นอกจากจะมีน้องๆ นักเรียน นักศึกษา รวมถึงสต๊าฟต่างๆ มาเข้าร่วมงานแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เกิดความสำเร็จ ทำให้งานต่างๆ ผ่านพ้นไปด้วยดี คือ เหล่าอาสาสมัครที่เข้ามาร่วมการดำเนินงานในแคมป์ครั้งนี้

ในปีนี้มีนักศึกษาที่สนใจเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครภายในแคมป์ 2019 IYF World Camp Thailand ถึง 210 คน และให้ความตั้งใจในการทำงานในแผนกต่างๆ พร้อมทั้งได้เรียนรู้จิตใจการเป็นจิตอาสาอย่างแท้ผ่านทางงานที่ทำ และยังได้เรียนรู้จิตใจที่จะทำเพื่อคนอื่นผ่านทาง Mind Training อีกด้วย

ปูเป้ มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะบริหารปี 1

ปูเป้ มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะบริหารปี 1

“เห็นประชาสัมพันธ์แคมป์นี้ในเฟซบุ๊คค่ะ เป็นเพจของ IYF คือเคยไปกดlikeไว้ บอกว่าจะมีจัดงาน Japanese day มีทำอาหาร เรียนภาษาและวัฒนธรรมก็เลยไปเข้าร่วมแล้วก็ทราบข่าว World Camp จากในงานค่ะ ที่เข้ามาในงานอาสา ก็ไม่เหนื่อยนะคะ ชอบที่สุดเลยคือตอนที่ฝนตกแล้วต้องวิ่งออกไปเก็บกระเป๋าให้ลูกค่ายคนอื่นๆ เพื่อนอาสาทุกคนก็ไปทำด้วยกันก็รู้สึก เหมือนเราได้เป็นอาสาของแท้เลย ตัวเปียกก็ไม่เป็นไร เห็นทุกคนมาช่วยกันก็ประทับใจมากค่ะ”

แบงค์,โตเกียว ม.ธรรมศาสตร์ ปี 1

แบงค์,โตเกียว ม.ธรรมศาสตร์ ปี 1

“พวกเราสองคนเพิ่งมารู้จักกันในค่ายครับ รู้สึกสนุกครับ ได้เจอเพื่อนใหม่ ได้เจอกันทำงานที่ต้องแก้ไขสถานการณ์ เยอะมากๆและพลิกผันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่สามารถวางแผนได้เลย55+ มีความสุขมากเลยครับคือในทุกๆปัญหามันมีทางออก มันสอนให้เราได้รู้จักกันแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและเตรียมรับมือกับปัญหาที่เข้ามา มันไม่ได้น่ากลัวครับขอแค่ทุกคช่วยกันมันก็ผ่านไปได้

ตอนที่ทำงานอาสาในค่ายก็มีเรื่องหนักใจเหมือนกันคือการที่จะต้องไป จัดการ หรือตามน้อง เช่นให้ไปปลุกน้องหรือเรียกน้องมาเข้าโปรแกรมตามเวลา แต่ว่าก็ต้องทำนะครับเพราะว่าถือว่ามันเป็นข้อตกลงร่วมกัน ก็ต้องขอความร่วมมือพวกเขา ต้องฝึกวิธีการพูดให้เขาเข้ามาทำกิจกรรมตามตาราง

มีช่วงที่ฝนตกครับ จริงๆผมอยู่ฝ่ายทะเบียน ผมไม่ได้อยู่ฝ่าย อาคารและสถานที่แต่พวกเราทุกๆฝ่ายก็ต้องวิ่งออกไปเพื่อไป นำกระเป๋าน้องๆเข้ามาในร่มแม้ว่าอาจจะมีบางส่วนที่เปียกบ้างแต่พวกเราก็พยายามอย่างเต็มที่ครับเพื่อให้มันน้อยที่สุด เราก็คิดถึงเพื่อนครับว่าถ้ากระเป๋าเปียกมาเข้าร่วมงานก็คงไม่สนุก

ตอนที่ทำอาสาในฝ่ายเกมก็เหมือนกัน แล้วสถานที่มัน ติดขัดนิดหน่อยครับ จากเดิมที่วางแผนไว้ว่าจะเล่น3 เกมก็ต้องเหลือ 1 เกมเพราะว่ามี Academy สอนเต้น kpop เข้ามาขอใช้สถานที่ร่วมด้วย ก็ต้องแบ่งปัน ช่วยกันคือเกมก็ได้เล่น Academy ก็ได้เล่น แต่ถ้าคิดแค่ว่าฉันจะต้องได้เล่นจนจบอยู่แค่ฝ่ายเดียว วิทยากรที่เชิญมาจากทางข้างนอกมาสอนเต้นก็จะรู้สึกเสียใจใช่ไหมครับเราก็เลยต้องช่วยเหลือกันก็ต้องคิดแก้ปัญหาสถานการณ์เฉพาะหน้าเพื่อกันและกัน

สิ่งที่ขอบคุณเลยก็คือการที่มาที่นี่พวกเราไม่ได้รู้จักกันมาก่อนครับ แต่พวกเรา ได้มาช่วยเหลือซึ่งกัน ร่วมกันทำงานเป็นทีม เพื่อให้งานมันดำเนินไปได้อย่างดี เป็นโอกาสที่พี่ๆให้พวกเรา ได้มาทำงานแล้วได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ ตอนที่เกิดปัญหาไม่มีใครแบ่งฝ่ายกันไม่มีใครเกี่ยงกันว่าฉันอยู่ฝ่ายไหนแต่เราก็ช่วยกัน ครั้งนี้ มันได้เรียนรู้เรื่องการเปิดใจ เปิดใจที่จะรับปัญหาและเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหา ไม่หนี ก็รู้สึกขอบคุณทุกอย่างเลยครับ”

ป๊อกแป๊กและตะวัน( วิทยาศาสตร์) ,เกด( ศิลปศาสตร์) ธรรมศาสตร์ ปี1

ป๊อกแป๊กและตะวัน( วิทยาศาสตร์) ,เกด( ศิลปศาสตร์) ธรรมศาสตร์ ปี1

“ที่อยากเข้าร่วมงานอาสาเพราะว่า ไม่อยากอยู่เฉยๆ อยากทำหลายๆอย่างที่ไม่ใช่แค่นั่งฟัง แล้วก็ค่าแคมป์ถูกกว่าด้วย55 แล้วพี่ๆก็บอกด้วยว่ามาทำงานอาสาก็จะได้ทำอะไรเยอะกว่าสนุกกว่า พวกเราอยากจะทำกิจกรรมในช่วงมหาลัยเยอะๆ อยู่แล้วค่ะ พวกเราอยู่ฝ่ายรถกับอะคาเดมี่ แต่ตอนที่ฝนตกเราไม่สนใจว่าใครอยู่ฝ่ายไหน ออกไปช่วยกันเก็บกระเป๋าเข้าร่มโดยรวมรู้สึกสนุกนะคะถึงแม้ว่ามันจะมีปัญหาบ้างแต่มันก็สนุกกว่าเรียนหนังสือ เหมือนมันได้ลองแก้ปัญหา ไม่ใช่อยู่แค่เฉยๆ เพราะเราเป็นคนขี้เบื่อด้วย รู้สึกว่าสิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้จากค่ายนี้คือ การก้าวต่อ ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยลำบาก มีปัญหาแต่ว่าก็ยังเลือกก้าวต่อไป ไม่เกี่ยงกันทุกคนก็พร้อมใจกันไปช่วยถึงแม้ว่าจะเปียกก็ไม่เป็นไร ขอบคุณพี่ๆที่มอบโอกาสให้กับเรา แล้วก็เพื่อนๆที่ให้มิตรภาพที่ดีกับเราค่ะ ได้นอนกับเพื่อนที่มาเข้าร่วมที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วย แต่เราคุยกันอยู่ด้วยกันเหมือนคนที่ เจอกันมานานแล้ว ทำให้รู้สึกเหมือนได้เพื่อนใหม่ ดีใจที่ได้รู้จักพวกเขา”

น.ส.จริยา นวนศรี (อาย) อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

น.ส.จริยา นวนศรี (อาย) อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

“เจอกับไอวายเอฟตอนที่ไปประชาสัมพันธ์ในห้องเรียน รู้สึกสนใจที่มีหลายประเทศให้เลือกไปเป็นอาสาสมัคร พอเรียนเสร็จก็ไปสมัครที่บูธเลย และก็ได้ทำกิจกรรมกับไอวายเอฟในชมรมที่ธรรมศาสตร์ พี่สตาฟน่ารักและอบอุ่นมาก จึงตัดสินใจทำกิจกรรมกับชมรมต่อ

ครั้งนี้ตัดสินใจมาเป็นอาสาสมัครในแคมป์ เพราะคิดว่าจะได้ทำกิจกรรมและช่วยเหลือคนอื่น วันนี้อาจจะไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมในแคมป์เยอะ แต่ก็มีเรื่องหนึ่งเกิดขึ้นคือฝนตกจนทำให้กระเป๋าน้องๆ ที่มาแคมป์บางส่วนเปียก แต่ตอนนั้นสตาฟอาสาสมัครทุกคนก็พยายามช่วยกันขนกระเป๋าเอาไปเก็บไว้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่รู้สึกประทับใจ คือได้เห็นทุกคนร่วมใจกันอย่างเต็มที่ ไม่ได้รู้สึกเหนื่อย แต่กลับรู้สึกสนุกมากกว่า

ส่วนกิจกรรม Mind Training ก็รู้สึกชอบในความคิดของคนเกาหลี และคิดว่าถ้าประเทศไทยทำได้แบบนี้ก็จะดีมาก เห็นว่ากระบวนการคิดของเขาเป็นระบบมาก จนทำให้การทำอะไรสักอย่างหนึ่งประสบความสำเร็จ และคิดว่าสิ่งที่อาจารย์พาร์คสอน สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ คือต้องคิดอย่างเป็นระบบ และลงมือทำจริงๆ หากลงมือทำเราจะได้รู้ว่าตัวเราทำได้หรือเปล่า และเรื่องจิตใจก็เป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิต หากเรามีจิตใจที่เข้มแข็ง จะเติบโตต่อไปอย่างแข็งแรงได้”

ไนซ์ , ไอซ์ วิทยาลัยนาฏศิลป อาสาสมัครทีมเต้น

ไนซ์ , ไอซ์ วิทยาลัยนาฏศิลป อาสาสมัครทีมเต้น

“ความประทับใจในการมาเป็นอาสาสมัครทีมเต้นของหนูคือหนูรู้สึกได้ก้าวผ่านขีดจำกัดของตัวเองมากขึ้นพี่ๆได้เปิดโอกาสให้เด็กคนนึงได้ใช้ความสามารถที่มีได้คุ้มค่าได้พัฒนาตัวเองจากเดิมขึ้นมากเเละทำให้หนูรู้สึกว่าหนูมีจิตใจที่ให้ความสุขเเละรอยยิ้มอย่างเเท้จริงที่ไม่เคยได้ทำมาก่อนเเละยังรู้สึกดีใจมากๆที่ได้เห็นรอยยิ้มนับพันกำลังส่งยิ้มมาอย่างดีใจที่ได้เห็นพวกหนูทำการเเสดง”

ทางมูลนิธิฯ รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่งและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผ่านทางการเป็นอาสาสมัครของ IYF น้องๆ นักศึกษาทุกคนจะได้รับความสุขและจิตใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิตอาสาสมัครต่อไป