เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่มูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ ศูนย์รังสิต จัดงานเวิร์คช็อปให้แก่น้องๆ ที่จะมาเป็นอาสาสมัครในงาน 2020 IYF WORLD CAMP  โดยมีนักเรียนนักศึกษาจากสถาบันต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งระดับมัธยม และมหาวิทยาลัยเข้าร่วมกว่า 100 คน

เนื่องจากเป็นการพบกันครั้งแรกในช่วงต้นเราจึงให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกันผ่านกิจกรรมละลายพฤติกรรม จากนั้นเป็นช่วงการแนะนำ IYF และการเต้นของ The Righteous Stars

เข้าสู่กิจกรรมช่วงบ่าย หลังจากกินข้าวเสร็จ พี่สต๊าฟกลัวน้องๆ จะง่วง จึงเริ่มต้นด้วยกิจกรรม Mind Reacreation เป่ายิ้งฉุบวนหอย ที่ให้ 2 ทีม วิ่งวนเข้าและวนออกเป็นรูปหอย ทีมไหนถึงเป้าหมายก่อนทีมนั้นชนะ

หลังจากเล่นเกมเสร็จก็ถึงช่วงแบ่งฝ่ายการทำงาน แบ่งออกเป็น ทีมที่พัก ทีมอาหาร ทีมCulture Academy ทีมห้องประชุม ทีมทะเบียน ทีมเดินทาง ทีมเกม และทีมเต้นแต่งหน้า ปีนี้น้อง ให้ความสนใจทีม Culture Academy และทีมห้องประชุมมากที่สุด ช่วงเวลา 1 ชั่วโมง ที่น้องๆ ได้พบกับหัวหน้าของแต่ละทีม แม้จะยังไม่ได้ปฏิบัติจริง แต่น้องๆ ก็ได้ทำความเข้าใจจิตใจของการทำงาน แต่ละส่วนอย่างชัดเจนผ่านประสบการณ์ของรุ่นพี่

ทั้งนี้น้องๆ ที่สมัครเข้าเป็นอาสานั้น มีจิตใจที่อยากจะทำงานเพื่อผู้อื่น และรู้ว่างานในกิจกรรมเวิล์ดแคมป์จะต้องพบกับความยากลำบาก การอธิบายรูปแบบการทำงาน และปัญหา เช่น อาจจะต้องนอนดึก รับประทานข้าวไม่ตรงเวลา หรือการทำงานกับคนที่มีนิสัยแตกต่างกัน จึงไม่ได้ทำให้น้องๆ รู้สึกกลัวหรือถอนตัวจากงานอาสาแม้แต่นิดเดียว

เต้น Folk Dance

และมิตติ้งตามมหาวิทยาลัยต่างๆ พี่ประจำมหาวิทยาลัยเริ่มต้นด้วยถามความรู้สึกของน้องๆ กับการมาครั้งนี้ แต่ละคนเลือกฝ่ายตามความชอบของตัวเอง เช่น คนที่ชอบกิน ชอบทำอาหารก็เลือกทีมอาหาร คนที่ชอบงานต้อนรับผู้ใหญ่ก็เลือกทีม VIP บางคนไม่รู้จะเลือกทีมไหนก็เลือกทีมที่คนเลือกน้อยอย่างทีมที่พัก เด็กบางคนเรียนเครียดๆ กับคณะตัวเอง ก็เลือกเข้าทีมเต้น เป็นช่วงเวลาที่ทำให้ได้เรียนรู้จักนิสัย ใจคอ ของกันและกันทุกคนยิ่งสนิทกันมากขึ้น และเริ่มแลกเปลี่ยนคอนแท็กติดต่อกัน นอกจากนี้พี่ๆ สต๊าฟยังแบ่งปันประสบการณ์สมัยก่อนตอนที่ทำงานอาสาสมัครในแคมป์ด้วย สุดท้ายแนะนำกิจกรรมในชมรม IYF เพื่อชวนน้องๆ มาเข้าร่วมทำกิจกรรมครั้งถัดไป และถ่ายรูปร่วมกันก่อนจาก

ความรู้สึกของผู้ร่วมงาน

นายธนพล แพ่งผล –  น้องเพชร วิทยาลัยเทคโนโลยี ดอนบอสโกบ้านโป่ง อายุ 21 ปี
ผมเข้าเป็นอาสาสมัครเพราะลองมาหาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่นี่ เยาวชนได้มาทำอะไรเพื่อคนอื่นแบบนี้ ได้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และได้มาพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาที่ไม่สามารถคุยภายนอกได้ ประทับใจตั้งแต่โปรแกรมแรก ที่มีอาจารย์มาบรรยาย ก็ได้ข้อคิดหลายๆ อย่าง ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ที่ดีเรื่องพี่ที่ดี การต้อนรับที่ดี จากการฟังบรรยายก็ได้ข้อคิด เรื่องการต่อสู้กับตัวเอง และอะไรต่างๆ ที่เราคิดว่าไม่สามารถทำได้ หรือไม่คิดที่จะสู้ แต่ว่าได้รับแรงผลักดันและต่อสู้กับปัญหาที่ไม่คิดว่าจะ ทำได้ อาสาสมัครครั้งนี้เลือกอยู่อาหาร เพราะว่าเป็นงานที่ได้มีโอกาส ได้เตรียมพร้อมให้กับคนที่เข้ามา และถ้าให้เลือกไปเป็นอาสาสมัครอยากไปที่ญี่ปุ่น อยากจะฝากถึงหลายๆ คนซึ่งอาจจะยังมีปัญหาที่ไม่กล้าเข้าสังคมหรือว่ามีปัญหาโดยส่วนตัวที่ไม่กล้า ก็อยากให้ลองเปิดใจ ลองมาพูดคุยลองมาฟัง มาคุยกับรุ่นพี่มาคุยกับคนที่แนะนำสิ่งดีๆ ให้แบบนี้