นักเรียนม.ต้น-ม.ปลาย 121 คน จากทั่วประเทศ เข้าค่ายฤดูร้อนกับ ‘ลินคอล์น เฮาส์’ สร้างประสบการณ์ช่วงปิดเทอมอย่างแสนสนุก พร้อมสร้างความหวังในจิตใจ

  • นักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายกว่า 121 คนจากทั่วประเทศ เข้าร่วมค่ายฤดูร้อน ใช้เวลาช่วงปิดเทอมเรียนรู้เรื่องโลกของจิตใจ
  • น้องๆ สนุกไปกับการทำกิจกรรมมากมายร่วมกัน เช่น การเรียนภาษา กิจกรรมกีฬาสี เวิร์คช็อป และทัศนศึกษานอกสถานที่
  • โรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ เปิดทางให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้การใช้ชีวิตที่มีความสุขและความหวัง

Summer Camp ค่ายปิดเทอมฤดูร้อนสำหรับเด็กมัธยมฯ จัดขึ้นที่โรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 19 เมษายน 2567 ค่ายในครั้งนี้มีนักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายเข้าร่วมกว่า 121 คนจากทั่วประเทศ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่เด็กๆ ได้มาใช้เวลาและแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ ในช่วงปิดเทอมร่วมกัน

ตลอดระยะเวลา 1 เดือน น้องๆ ได้ทำกิจกรรมมากมายทั้งเพื่อกระชับความสัมพันธ์และเพิ่มทักษะการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมกีฬาสี ฝึกทำขนมไทย เรียนรู้วัฒนธรรมประเทศเกาหลีใต้ผ่าน Korean Culture Day รวมถึงได้มีโอกาสเรียนรู้ทฤษฎีดนตรีกับวิทยากรมากประสบการณ์อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม Mind Recreation ที่ไม่ได้มีดีแค่ความสนุกแต่ยังสอดแทรกแง่คิดดีๆ เพื่อให้น้องๆ ได้นำไปฝึกใช้ เช่น 2 Face Thinking ฝึกทักษะการคิดอย่างลึกซึ้ง กิจกรรม ‘ขอบคุณนะ’ คำง่ายๆ ที่ให้จิตใจแข็งแรงและกว้างขึ้น

ช่วงปิดเทอมยังเป็นโอกาสอันดีที่เด็กๆ จะได้ไปเที่ยวพักผ่อน ทางโรงเรียนจึงจัดให้มีการทัศนศึกษานอกสถานที่ถึง 2 ครั้งด้วยกัน ในครั้งแรกน้องๆ ได้ไปทำกิจกรรม Mission Trip ที่ห้างฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต และครั้งที่สองน้องๆ ได้ไปเล่นน้ำคลายร้อนกันที่หาดเติมรัก สวนน้ำธรรมชาติ จังหวัดนนทบุรี

ทางโรงเรียนเล็งเห็นว่า “ทักษะภาษา” เป็นทักษะที่สำคัญสำหรับเด็กยุคใหม่ จึงได้จัดให้น้องๆ ได้เรียนภาษาต่างประเทศอย่างภาษาอังกฤษ และภาษาเกาหลีทุกวัน ในรูปแบบที่ไม่ใช่เพียงการนั่งเรียนในห้องเรียน แต่เรียนรู้ผ่านการทำกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การตามล่าคำศัพท์ภาษาอังกฤษปริศนาในห้างสรรพสินค้า และการทำแผ่นพับคำศัพท์

 อาจารย์ซินมิน คิม ผู้ดูแลนักเรียนโรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ ประเทศไทย ได้บรรยายถึงนักเรียนที่เข้าร่วมค่ายถึงเรื่อง ‘มุมมอง’ หรือ Mindset โดยได้ยกตัวอย่างชีวิตของคนสองคนที่ต่างก็เจอเรื่องไม่ดีในชีวิต แต่ด้วยวิธีคิดที่ต่างกันทำให้ชีวิตของคนรู้จักการขอบคุณมีความสุขได้ในทุกๆ วัน อีกทั้งยังได้มีการยกตัวอย่างถึงทุเรียน ซึ่งเป็นผลไม้ที่บางคนอาจจะไม่ชอบทาน แต่เมื่อเราได้มีโอกาสเปิดใจลิ้มลองไปเรื่อยๆ เราก็จะสามารถเข้าใจได้ว่ารสชาติของทุเรียนเป็นอย่างไร เช่นเดียวกันกับตอนที่พ่อแม่คอยห้ามไม่ให้เราทำตามใจตนเอง ซึ่งเราอาจคิดว่าพ่อแม่เกลียดเรา แต่ในความเป็นจริงจิตใจของพ่อแม่นั้นเต็มไปด้วยความรักความห่วงใย เหมือนกับในอิสยาห์ บทที่ 55 ข้อที่ 7-9 ที่ได้พูดถึงสิ่งที่ดีในมุมมองของเรากับพระเจ้าที่แตกต่างกัน อาจารย์จึงอยากให้น้องๆ รู้จักการเปลี่ยนมุมมองและรู้จักขอบคุณกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในทุกวัน เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในจิตใจของน้องๆ เอง

 ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย แต่การพูดคุยแลกเปลี่ยนจิตใจกันและกันกลับเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนละเลย กิจกรรม Group Meeting จึงเป็นกิจกรรมประจำวันที่นักเรียนได้พูดคุยเรื่องของจิตใจกับคุณครูประจำกลุ่มและเป็นช่วงเวลาที่นักเรียนจะได้ทบทวน Mind Lecture ผ่านทางกิจกรรมนี้นักเรียนจึงมีโอกาสได้ค้นพบจิตใจของตนเอง และมองเห็นว่าปัญหาต่างๆ สามารถแก้ไขได้ผ่านทางบทเรียน Mind Lecture ที่นักเรียนได้เรียนภายในค่ายฯ

เป็นเรื่องที่น่าขอบคุณมากที่ค่ายระยะสั้นเพียงหนึ่งเดือนก็สามารถเปลี่ยนแปลงเยาวชนได้ แสดงให้เห็นว่าโรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ เป็นโรงเรียนที่จะมาให้ความหวังกับเยาวชนไทยอย่างแท้จริง

ด.ญ. ฟางเซียว แซ่ลี (โรส) อายุ 14 ปี จ.เชียงราย กล่าวว่า จริงๆ แล้วตนเองมาเข้าร่วมแคมป์ครั้งนี้เพราะตามเพื่อนมา แต่พอได้เรียนและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ก็รู้สึกสนุก และชอบมากๆ โดยเฉพาะกิจกรรมกีฬาสี ทำให้ได้สนิทกับเพื่อนมากยิ่งขึ้นและได้เห็นความสามัคคีของเพื่อนในกลุ่มระหว่างที่ทำกิจกรรม รู้สึกมีความสุข และก็ได้เห็นเพื่อนๆ มีความสุขด้วยกันค่ะ ซึ่งหลังจากจบแคมป์ ตนเองก็อยากจะเรียนต่อโรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ นอกจากกิจกรรม ตนก็ได้เรียนรู้เรื่องของจิตใจและเห็นจิตใจของตนเองผ่านทางพระคัมภีร์ในหนังสือ มัทธิว บทที่ 7 ข้อที่ 3 “ท่านมองดูผงที่อยู่ในตาของพี่น้องของท่าน แต่ไม่ยอมพิจารณาไม้ทั้งท่อนที่อยู่ในตาของท่านเอง” ซึ่งที่ผ่านมาตนอยู่กับคุณยาย ทุกครั้งที่ทะเลาะกับยายมักจะเห็นแต่ความผิดของยาย ไม่เคยมองเห็นความผิดของตัวเอง ไม่เคยคิดว่าตัวเองผิดเลยค่ะ มีโอกาสได้เห็นตัวเองผ่านทางชั่วโมงที่พูดถึงจิตใจ และมีโอกาสได้เชื่อว่าตนบริสุทธิ์ผ่านทางพระคัมภีร์ที่ว่า “พระเยซูทรงถวายบูชาเพียงหนเดียว พระองค์ได้ทรงกระทำให้คนทั้งหลายที่ถูกชำระแล้วถึงสำเร็จเป็นนิตย์”

ด.ช. สุรชาติ จะดะ (ไทเกอร์) อายุ 14 ปี จ. เชียงราย ได้กล่าวว่าตนเองได้รู้จักกับแคมป์นี้ผ่านทางคุณครูที่ไปแจกใบปลิวที่ตลาดในจังหวัดเชียงราย หลังจากที่มาเข้าร่วมแคมป์ ตนมีโอกาสได้เรียนภาษาเกาหลีซึ่งเป็นภาษาที่สามที่ตนไม่เคยเรียนมาก่อน ได้รู้จักกับเพื่อนใหม่มากมาย ได้เรียนรู้นิสัยและจิตใจของเพื่อนผ่านทางการช่วยเหลือของเพื่อน ตนรู้สึกชอบกิจกรรมกีฬาสีใน Summer Camp ครั้งนี้มาก สนุกที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ได้เล่นด้วยกัน ได้เห็นความสามัคคีของกันและกัน นอกจากกิจกรรมและเรียนภาษาแล้ว ตนยังได้เรียนรู้เรื่องของจิตใจอีกด้วย ได้มีโอกาสเห็นว่าจริงๆ แล้วตนเป็นเด็กดื้อคนหนึ่งที่ไม่ฟังคำพูดของใครเลย เมื่อก่อนเวลาคนอื่นบอกว่าตนเองดื้อ ตนก็ไม่อยากจะยอมรับ และไม่อยากให้ใครมายุ่งหรือก้าวก่าย แต่พอได้เรียนรู้เรื่องโลกของจิตใจจากแคมป์ครั้งนี้ ทำให้ได้ยอมรับว่าตนเป็นคนดื้อมากๆ ไม่เชื่อฟังใครเลย แคมป์นี้ทำให้ตนเห็นตนเองและเปลี่ยนแปลงไปที่ละเล็กละน้อย ตนจึงตัดสินใจสมัครเข้าเรียนที่โรงเรียนลินคอล์นเฮ้า้าส์  เพราะมีความหวังว่าตนจะสามารถเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดียิ่งขึ้นได้ครับ

ด.ช. อาคิรา บอยเออล์ (ลีวาย) อายุ 13 ปี จ.ภูเก็ต กล่าวว่า สิ่งที่ผมได้รับมากที่สุดผ่านทางแคมป์ครั้งนี้คือเรื่องของจิตใจครับ ที่นี่มีชั่วโมงการพูดคุยเรื่องของจิตใจที่เปิดโอกาสให้เราได้พูดความกังวล ความยากลำบากในจิตใจด้วยครับ จากการฟังบรรยายและการแชร์จิตใจ ทำให้ตนเห็นตัวเองอย่างชัดเจนว่าแท้จริงแล้วตนเป็นคนที่มีลิ้นสองแฉก พูดทุกอย่างเอาความดีเข้าตัว เมื่อผมเห็นจุดบกพร่องแล้ว ผมก็สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ผมรู้สึกเป็นอิสระในการอยู่ที่นี่ พูดจิตใจและความคิดได้อย่างอิสระ คุณครูต่างพร้อมรับฟังและให้คำแนะนำที่ดี นอกจากนี้ผมยังชอบกิจกรรมที่ได้ทำเพราะทำให้ผมได้มิตรภาพจากเพื่อนใหม่มากมาย คุณครูสอนภาษาอังกฤษที่นี่ก็สอนเข้าใจง่ายมากๆ ใจเย็น ค่อยๆ อธิบายจนผมเข้าใจ ทำให้ผมรู้สึกสนุกในการเรียนมากครับ ถ้าแม่ผมอนุญาต ผมก็อยากเข้าเรียนที่โรงเรียนคอล์นเฮาส์ครับ ผมมีความสุขมากตลอด 1 เดือนของการเข้าร่วม  Summer Camp ครับ