‘การสื่อสารที่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลง’ IYF จัด Mind Education Workshop ให้กับนักเรียนเทคนิคมีนบุรีจำนวน 500 คน

 

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 ตุลาคม 2566 มูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ   (International Youth Fellowship – IYF) ได้รับเชิญจาก สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ให้จัดงาน Mind Education  Workshop ณ ห้องประชุมสุธี-ฉวีวรรณ มีนชัยนันท์ วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี โดยมีนักเรียนระดับชั้นปวช. และปวส. ของวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรีมาเข้าร่วมทั้งสิ้น 500 คน

โดยในงานครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก เรืออากาศโทสมพร ปานดำ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวเปิดงาน และน.ส.มุกรินทร์ สุมาริธรรม รองผู้อำนวยการรักษาราชการแทนผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วยนายเศรษฐศิษฏ์ ณุวงค์ศรี ที่ปรึกษาเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และนายทวีศักดิ์ คิ้วทอง ผู้อำนวยการสำนักติดตามและประเมินผลการอาชีวศึกษา คณะผู้บริหารของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาที่ให้เกียรติมาร่วมงาน

กิจกรรมเริ่มต้นด้วยการแสดงเต้นวัฒนธรรมจากทวีปแอฟริกาของนักเรียนโรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ ซึ่งเป็นโรงเรียนทางเลือกที่ให้โอกาสแก่เยาวชนที่ไม่สามารถเรียนต่อในระบบปกติได้ รอยยิ้มที่สดใสของพวกเขาทำให้ผู้เข้าร่วมประทับใจเป็นอย่างมาก

ต่อด้วยกิจกรรม Mind Sharing โดยนายธีรวัฒน์ อ่อนตานา หรือน้องโก้ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ อายุ 20 ปี ได้แบ่งปันจิตใจการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ที่คิดว่าแม่รักพี่สาวมากกว่า และให้ทุกอย่างที่พี่สาวต้องการ ตัวเองเลยมีใจที่อิจฉา จึงคิดว่าจะต้องมีเงิน และร่ำรวย เพื่อทำให้แม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเหมือนที่ตัวเองไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ ทำให้รูปแบบจิตใจในการใช้ชีวิตเป็นไปในทางที่ผิด โดยคิดว่าการเสพยา และการค้ายา น่าจะทำให้ชีวิตรวยขึ้น จนกระทั่งได้มีโอกาสเรียนรู้เรื่องโลกของจิตใจ หรือ Mind Education และเปิดใจรับฟังจากคุณครูที่พูดว่า “ทางที่ดูเหมือนว่าถูกต้อง แต่สุดท้ายสิ้นสุดลงด้วยความตาย”

“จากคำพูดนั้น ทำให้ผมได้เห็นว่า การที่ผมเคยคิดว่าการเสพยา คือความสนุก และการค้ายา จะทำให้ได้เงินเยอะ แต่ผลลัพธ์สุดท้ายจะต้องจบลงด้วยความล้มเหลวและเข้าเรือนจำแน่นอน ตอนที่เห็นจิตใจของผมอย่างชัดเจน ทำให้ผมได้เชื่อมต่อจิตใจกับคุณครู และหลุดพ้นจากวังวนของยาเสพติดได้ นอกจากนี้ ผมยังได้รับการเปลี่ยนแปลงจากคนที่ไม่มีความหวังในการใช้ชีวิต กลับมีความหวังที่จะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย” นายธีรวัฒน์ กล่าว

สำหรับช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดคือ การฟังบรรยายเรื่องโลกของจิตใจ คุณดาวิด คิม ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโลกของจิตใจ ได้พูดถึงหัวข้อ ความสามารถในการคิด ว่า คนเรามีความสามารถในการคิด 2 อย่าง ได้แก่ ความคิดรอบที่ 1 คือ ความรู้สึก สัญชาตญาณ และความคิดรอบที่ 2 คือ การคิดไตร่ตรอง ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ โดยการคิดเผื่อคนอื่น จะช่วยทำให้เราคิดรอบที่ 2 ได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเหตุการณ์ ช่างทาสี 4 คน ที่ได้รับงานทาสีจากอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ระหว่างทำงานก็ฟังเพลง ร้องเพลงไปด้วย ทำให้คนที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์รู้สึกรำคาญ และมีคนชายคนหนึ่งได้แสดงความไม่พอใจ โดยหยิบมีดและขึ้นไปชั้นดาดฟ้า เพื่อตัดเชือกที่กำลังห้อยช่างทาสีทั้ง 4 คน ทำให้ตกลงมาจนเสียชีวิต

“คนมากมายมักจะมองที่เหตุการณ์ และสถานการณ์ แต่คนที่รู้จักเรื่องจิตใจ จะไม่มองที่เหตุการณ์ แต่จะมองไปที่จิตใจ จากตัวอย่างเรื่องช่างทาสี เราพบว่าจิตใจของชายหนุ่มที่ไปตัดเชือกเพราะรู้สึกรำคาญเสียงเพลง ทำให้เขาไม่คิดไตร่ตรอง ทั้งที่ เขาอาจจะถามช่างทาสีก่อนก็ได้ว่า ทำไมต้องเปิดเพลงและร้องเพลงเสียงดัง และอาจจะได้เข้าใจอย่างชัดเจนว่า การที่ช่างทาสีเปิดเพลงฟัง เพราะพวกเขากลัวความสูง การฟังเพลง ช่วยผ่อนคลายการทำงานที่เสี่ยงอันตราย และลืมความกลัวระหว่างทำงาน ถ้าหากว่าได้คิดถึงจุดนี้ ก็คงไม่ทำตามอารมณ์ง่ายๆ” คุณดาวิด คิม กล่าว

คุณดาวิด คิม กล่าวต่อว่า ถ้าเรารู้จักคิดอย่างลึกซึ้งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ โรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ จึงสอนเรื่องโลกของจิตใจและให้นักเรียนมีโอกาสได้คิดไตร่ตรอง เมื่อนักเรียนได้ลองคิดไตร่ตรองเรื่อยๆ พวกเขาก็จะเปลี่ยนแปลง และสามารถรับฟังผู้อื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนที่มีจิตใจอ่อนแอ ที่มักสร้างเรื่องชกต่อยอยู่เสมอ ดื่มเหล้า หรือเสพยา ปัจจุบันนักเรียนเหล่านี้ ได้หยุดการกระทำที่สร้างปัญหา ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนใจ และการสร้างจิตใจที่เข้มเเข็ง โดยการเริ่มคิดในมุมมองที่แตกต่างจากมุมมองของตัวเอง ดังนั้น การคิดไตร่ตรองจึงทำให้เรามีชีวิตที่เข้มแข็งและมีความสุข

จากนั้น เข้าสู่กิจกรรม Mind Activities กิจกรรมสันทนาการสนุกๆ พร้อมเรียนรู้เรื่องจิตใจ คือ เกมกายใจเป็นหนึ่งเดียว ที่ทำให้เข้าใจเรื่องความแตกต่างของคนเรา ว่า ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ และต่อด้วยกิจกรรมที่ชื่อว่า Can You Hear My Voice ได้ยินไหมหัวใจฉัน เป็นกิจกรรมที่สอดแทรกเรื่องราวของจิตใจ การหลุดพ้นออกจากความคิด และรับฟังเสียงของคนอื่น ซึ่งผ่านทางกิจกรรมนี้ทำให้เราได้ค้นพบปัญหาที่แท้จริงที่ทำให้ความสัมพันธ์ของคนเราถูกตัดขาดจากกันและกัน อย่างเช่นปัญหาอาการติด ครอบครัว การเรียน ซึมเศร้า หรืออีกมากมายซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดจากความสัมพันธ์ที่ถูกตัดขาด

โดยสิ่งที่จะทำให้คนเราเกิดการเปลี่ยนแปลง และใช้ชีวิตที่มีความสุขได้นั้น สำคัญมากที่สุดคือการที่คนเรามีการสื่อสารที่ดี โดยได้ยกตัวอย่างนักเรียนลินคอล์นแต่ละคนที่มีปัญหาแตกต่างกันมา แม้จะพยายามเปลี่ยนแปลงพวกเขาด้วยกฎเกณฑ์ ข้อบังคับ และความรุนแรงต่างๆ แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิต หรือทำให้เขามีความสุขได้ ทำให้นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ได้มีโอกาสเห็นถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ และเข้าใจว่าคนที่เรารัก ไม่ใช่ฝ่ายที่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างเพื่อเรา แต่เป็นคนที่เราต้องสื่อสารด้วยเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้

IYF จัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้น เพื่อให้เยาวชนมีจิตใจที่เข้มแข็ง เพื่อเตรียมรับมือกับปัญหา และความยากลำบากที่อาจจะเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว การได้รับความร่วมมือจากสถาบันการศึกษา จะทำให้นักเรียนเหล่านี้ได้เรียนรู้เรื่องโลกของจิตใจ จนหลุดพ้นจากความมืด และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้

น.ส.ชลิษา สุขอิ่ม อายุ 15 ปี ศึกษาอยู่ ปวช.1 วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี กล่าวถึงกิจกรรม Mind Education ว่าได้เรียนรู้หลายอย่างเนื่องจากมีหลายอย่างที่เป็นความคิดที่อยู่ในหัวแต่ไม่กล้าพูดออกไปเนื่องจากความเขินอาย พอเข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้ทำให้กล้าพูด กล้าแสดงออกมากยิ่งขึ้น ในส่วนของกิจกรรม 3 3 3  ทำให้ได้เรียนรู้ว่าเราควรจะพูดจิตใจออกมาก่อนที่จะสายเกินไป เพราะว่าชีวิตของเรามีทั้งสั้น และยาว เราไม่รู้เลยว่าจะจากกันตอนไหน หรือได้พบกันอีกครั้งเมื่อไร สุดท้ายมีสิ่งหนึ่งที่อาจารย์พูดในวันนี้ แล้วรู้สึกประทับในเป็นอย่างมากคือ อาจารย์พูดว่าเรามีสองความคิด ซึ่งความคิดแรกเราอาจจะไม่ชอบที่มีคนมาพูดไม่ดี หรือ ทำสิ่งที่ไม่ถูกใจกับเรา แต่พอได้คิดอีกครั้งจึงได้เรียนรู้ว่าทุกอย่างล้วนมีเหตุผลเสมอ เราจึงควรฟังเหตุผลและนำมาคิดไตร่ตรองอีกครั้งว่าทำไมเขาถึงพูดหรือกระทำกับเราอย่างนี้

นายพุทเนตร เพชรกลับ ศึกษาอยู่ชั้น ปวช.1 วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี ได้กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมวันนี้ว่า รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก ซึ่งกิจกรรมที่ประทับใจในวันนี้มีทั้งหมด 2 กิจกรรมคือ 1.กิจกรรมที่อาจารย์มาบรรยายเกี่ยวกับลำดับของความคิดลำดับที่ 1 และ ลำดับที่ 2 ทำให้ได้มีโอกาสพัฒนาความคิดของตนเองให้มีการคิดไตร่ตรองอีกครั้ง และ 2. กิจกรรมที่รุ่นพี่มาเล่าถึงประสบการณ์จริงโดยตรงรู้สึกว่าได้สัมผัสกับประสบการณ์ของพี่เขาจริงๆ สุดท้ายได้กล่าวว่าจากที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้จะนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของตนเองทั้งช่วงเวลาที่เรียน และช่วงเวลาที่อยู่ที่บ้าน ให้ตัวเองได้คิดมากอีกรอบ เพื่อเข้าใจคนอื่นมากกว่านี้ และนำมาปรับเปลี่ยนตนเองเพื่อคนอื่นบ้าง