งานเปิดบ้านวิชาการ การศึกษาทางเลือก ‘ลินคอล์น เฮาส์’ โรงเรียนที่สอนให้เด็กเรียนรู้การเปลี่ยนแปลง’

 

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ณ IYF Center ศูนย์รังสิต จังหวัดปทุมธานี โรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ ได้จัดงานเปิดบ้านวิชาการ “Lincoln Open House” ในหัวข้อ “CHANGE YOUR MIND HAVE A DREAM BE A GLOBAL LEADER” เพื่อแนะนำโรงเรียน และหลักสูตรการเรียนการสอนแก่นักเรียน ผู้ปกครอง และบุคลากรทางการศึกษาที่มีความสนใจ โดยมีผู้เข้าร่วม 90 คน

 

งานเปิดบ้านครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเช้า 9.00 – 12.00 น. และช่วงบ่าย 13.30 – 16.30 น. โดยภายในงานมีกิจกรรมมากมาย ทั้งการแนะนำหลักสูตรการเรียนการสอน การแนะนำหลักสูตรพัฒนาจิตใจเยาวชน Mind Education จากประเทศเกาหลีใต้ กิจกรรมห้องเรียนจำลอง และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายที่จะทำให้ผู้เข้าร่วมได้รู้จักโรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ มากยิ่งขึ้น ในครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากแขกวีไอพีหลายคน อาทิ นายสกล สุนทรวาณิชย์กิจ สส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล พร้อมทีมงาน, นายวรีวุธ รักเที่ยง สส.กทม. พรรคก้าวไกล พร้อมทีมงาน, นายจำนงค์ มารมย์ ตัวแทนนายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม. พรรคก้าวไกล น.ส.นที รักธัญญะการ กองการศึกษา (ศึกษานิเทศน์) เทศบาลนครรังสิต จ.ปทุมธานี และ น.ส.รวีนาฏ โพธิ์ทอง ข้าราชการพลเรือนสถานแรกรับเด็กหญิงบ้านธัญญพร กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นต้น

การศึกษาทางเลือก ลินคอล์น เฮาส์ เป็นโรงเรียนที่เริ่มต้นมาจากประเทศเกาหลีใต้ ก่อตั้งโดย ดร.อ็อก ซู พาร์ค โดยนำหลักสูตร Mind Education มาใช้ในการเรียนรู้เรื่องโลกของจิตใจ ทำให้นักเรียนมีสุขภาพจิตที่แข็งแรงขึ้น เรียนรู้วิธี ‘การควบคุมจิตใจ’ และสามารถหลุดพ้นจากปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาด้านยาเสพติด ซึมเศร้า เกเร ปัญหาครอบครัว รวมไปถึงปัญหาการติดเกมได้ จากเด็กที่ไม่มีความฝันและใช้ชีวิตอย่างสิ้นความหวัง เมื่อพวกเขาได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนลินคอล์นฯ และได้รับการเปลี่ยนแปลงผ่านการเรียนรู้เรื่องโลกของจิตใจ แม้จะเป็นสิ่งไม่ชอบ ทำไม่เก่ง หรือไม่กล้าทำ แต่ก็สามารถเอาชนะจิตใจเหล่านั้นได้ และทำการแสดงด้วยใจ รอยยิ้มอันสดใสที่ปรากฏบนใบหน้าของพวกเขา ทำให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงความสุขที่เอ่อล้นออกมาจากใจ

สำหรับช่วงเรื่องเล่านักเรียนโรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ โดย น.ส.ธนพร สาระเจริญ (น้องแพรว) กล่าวว่า ตนเกิดเป็นลูกคนกลาง รู้สึกว่าพ่อแม่รักพี่สาวและน้องชายมากกว่าตัวเอง จึงพยายามเรียนหนังสือให้เก่งเพื่อให้ได้รับความรัก แต่ในความเป็นจริง ในช่วงเรียนมัธยมต้นกลับหนีเรียนไปเที่ยวกับเพื่อนๆ กินน้ำกระท่อมทุกวัน เพราะคิดว่านี่คือความสุข สุดท้ายก็หนีออกจากบ้าน ใช้ชีวิตอย่างไม่มีความหวังและไม่มีความฝัน สร้างความทุกข์ใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก วันหนึ่งได้มาเรียนที่โรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ ก็ได้เรียนรู้เรื่องโลกของจิตใจ และได้ค้นพบว่า จิตใจของตัวเองเป็นเหมือนน้ำเน่าที่ขังอยู่ในใจ แต่ในโรงเรียนนี้มีเพื่อนๆ และคุณครู ที่ทำให้ได้ไหลเวียนจิตใจระหว่างกัน จึงเป็นเหมือนน้ำใหม่ที่ไหลเข้ามาในใจ ทำให้น้ำที่เน่า ได้กลายเป็นน้ำสะอาด

“ตอนนี้หนูมีความฝันว่าอยากเป็นคุณครู แต่หลายครั้งเมื่อมองตัวเอง มันดูไม่มีความหวังเลย ไม่รู้จะต้องทำยังไงต่อ แต่ผ่านทางโรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ หนูได้ทำกิจกรรมมากมาย ได้เรียนรู้เรื่องโลกของจิตใจ ได้รับจิตใจของผู้อำนวยการ และคุณครูเรื่อยๆ ก็ทำให้หนูได้เรียนรู้จิตใจใหม่ๆ จึงสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความหวัง และความสุขได้” น้องแพรว กล่าว

จากนั้นเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดในงาน คือการบรรยายเรื่องโลกของจิตใจ (Mind Lecture) ในหัวข้อ ‘จิตใจเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน’ โดย ดร.กิตติมศักดิ์ ฮักเชิล คิม ผู้อำนวยการโรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ ได้เล่าเรื่องราวของโทมัส เอดิสัน นักประดิษฐ์อัจฉริยะชื่อก้องโลก ซึ่งชีวิตเบื้องหลังของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ โดยในวัยเด็กเขาโดนไล่ออกจากโรงเรียน เพราะคุณครูมองว่าเขาเป็นเด็กพัฒนาการช้า แต่คุณแม่กลับไม่สิ้นหวัง และมีความเชื่อว่าลูกเป็นเด็กอัจฉริยะ ด้วยความเชื่อนี้ของคุณแม่ ทำให้เอดิสันกลายเป็นคนที่สามารถประดิษฐ์หลอดไฟขึ้นมาได้ แม้ว่าเขาจะพบกับปัญหาและความล้มเหลวหลายครั้ง เขาก็ยังทำการทดลองเป็นหมื่นๆ วิธี แต่ก็ไม่สำเร็จ คนรอบข้างต่างต่อว่าและบอกให้เขาหยุด แต่เขาไม่เคยล้มเลิกแม้แต่ครั้งเดียว และพูดว่า “ผมไม่ได้ล้มเหลว ผมแค่ได้ค้นพบ 25,000 วิธีที่ไม่ได้ผลเท่านั้น”

“เด็กนักเรียนโรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ ล้วนเป็นเด็กที่มีปัญหามาก่อน ไม่ว่าจะเป็นคุณครูที่โรงเรียน หรือผู้ปกครอง ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เด็กเหล่านี้เป็นเด็กที่มีปัญหา แต่ผมไม่ได้มองว่าพวกเขาเป็นเด็กที่มีปัญหา เพราะคนมากมายเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นในชีวิต ก็มักจะหนี นักเรียนเหล่านี้ก็เช่นกัน พวกเขาสร้างปัญหามากมายในโรงเรียน แต่เมื่อเราสอนเรื่องโลกของจิตใจ และสอนให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะฝ่าฟันและเอาชนะปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิต พวกเขาก็เติบโตขึ้น และกลายเป็นเหมือนผีเสื้อที่สวยงามได้” ดร.ฮักเชิล คิม กล่าว

เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้ทำความรู้จักกับโรงเรียนลินคอล์นมากขึ้น จึงได้มีการแบ่งกลุ่มและทำกิจกรรมตามฐานต่างๆ ได้แก่ ‘School Lap’ กิจกรรมห้องเรียนจำลอง เป็นการจำลองห้องเรียนให้แก่ผู้ปกครองและบุคลากรให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศการเรียนของนักเรียนลินคอล์นฯ แบ่งออกเป็น 3 ห้องเรียน ได้แก่ 1. English Class ห้องเรียนภาษาอังกฤษ ที่มุ่งเน้นในการสื่อสาร ทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างสนุกสนาน 2. Korean Class ห้องเรียนภาษาเกาหลี พื้นฐานภาษาที่สาม ซึ่งนอกจากการเรียนรู้ภาษาแล้ว ผู้เรียนยังได้เรียนรู้การแต่งกาย รวมถึงวัฒนธรรมเกาหลีจากเจ้าของภาษาโดยตรงอีกด้วย และ 3. Production Club นักเรียนสามารถเรียนรู้ทักษะต่างๆ เช่น การถ่ายภาพและวิดีโอ การสตรีมมิ่ง ซึ่งเป็นทักษะที่นักเรียนจะได้ใช้จริงในกิจกรรมต่างๆ ภายในโรงเรียน นอกจากนี้ยังมีโซนให้สามารถถ่ายรูปและรับภาพถ่ายเป็นของที่ระลึกได้ ช่วยสร้างเสริมบรรยากาศการเรียนรู้ที่น่าตื่นเต้นและสนุกสนานเป็นอย่างมาก

กิจกรรมช่วง ‘Mind Sharing’ เป็นช่วงเวลาที่ทำให้ผู้เข้าร่วมได้มีโอกาสย้อนมองจิตใจของตัวเอง และเรียนรู้ที่จะสื่อจิตใจกับคนรอบข้าง แบ่งเป็น 2 หัวข้อ ได้แก่ 1. การเรียน ให้นักเรียนได้ลองแบ่งปันถึงความยากลำบากในการเรียน และเรียนรู้จิตใจที่จะสามารถก้าวออกไปเผชิญความยากลำบากนั้นผ่านนิทานที่ชื่อว่า ‘เมล็ดใช่ๆ เมล็ดไม่ๆ’ และ 2. ความสัมพันธ์ ผู้เข้าร่วมได้ทำกิจกรรม 3.3.3. โดยการจับมือและพูดถึงความในใจที่มีต่ออีกฝ่าย ซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐานสำคัญที่ถูกมองข้ามไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อนักเรียน ผู้ปกครอง หรือคุณครูที่มาด้วยกัน ได้ลองพูดความในใจที่ไม่เคยพูดมาก่อน แม้ตอนแรกอาจจะรู้สึกเขินๆ หรือรู้สึกยาก แต่เมื่อได้พูดออกไป ก็เป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นหัวใจที่ทำให้ความสัมพันธ์สามารถพัฒนาขึ้นได้

นอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศในห้องเรียนแล้ว ผู้ที่มาเข้าร่วมก็ยังได้เยี่ยมชมโรงเรียน ชีวิตการเป็นอยู่ และเดินชมหอพักของนักเรียน รวมถึงการพูดคุยปรึกษากับคุณครู โดยหลังจากจบกิจกรรม ก็มีผู้ปกครองที่รู้สึกสนใจและพาบุตรหลานมาสมัครเรียน จำนวน 11 คน

ปัจจุบันมีเยาวชนมากมายที่ใช้ชีวิตอย่างไม่มีความหวัง และจมอยู่กับปัญหาต่างๆ แม้พวกเขาจะถูกมองจากคนรอบข้างว่าเป็นเด็กที่มีปัญหา แต่โรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ พร้อมและยินดีที่จะรับเด็กเหล่านี้ เพราะเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะได้รับการเปลี่ยนแปลงผ่านการศึกษาเรื่องโลกของจิตใจ กลายเป็นแสงสว่างและอนาคตของประเทศชาติต่อไป โดยทางโรงเรียนวางแผนที่จะยกระดับ และพัฒนาการเรียนการสอนให้ดีมากยิ่งขึ้น จนสามารถกลายเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในประเทศไทย

บทสัมภาษณ์

คุณแม่ภา แซ่ย่าง จ.พะเยา กล่าวว่า ลูกชายของตนมีปัญหาด้านการเรียน เมื่อกลับมาอยู่บ้านก็จะเล่นเกม ไม่ค่อยใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว ทำให้ตนรู้สึกเหนื่อยใจด้วย ตนอยากให้ลูกกลับมาเรียนและเป็นเด็กดีของพ่อแม่อีกครั้งหนึ่ง พอมีคุณครูจากโรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ มาแนะนำ ตนเลยตัดสินใจพาลูกชายมาชมโรงเรียน และจากการทำกิจกกรรม “ความสัมพันธ์” ในวันนี้ ตนได้ขอโทษและบอกความหวังของตนกับลูกชายว่า “อยากให้ลูกเป็นคนดี เติบโตในสังคมได้ เพราะแม่ไม่รู้จะอยู่กับลูกถึงวันไหน กลัวว่าลูกจะดูแลตัวเองไม่ได้ อยากให้ลูกดูแลตัวเองได้ในวันที่ไม่มีพ่อแม่อยู่ด้วย” ซึ่งตนคิดว่าเป็นกิจกรรมที่ดีมาก หลังจากนี้ก็ตัดสินใจจะให้ลูกมาเรียนที่นี่โดยหวังว่าจะเห็นลูกเติบโต และเป็นคนดีผ่านโรงเรียนนี้

คุณปัณณพงศ์ มานะดี กล่าวว่า ตนมีความสนใจโรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ เนื่องจากมีการสอนเรื่องของจิตใจที่ไม่เหมือนกับโรงเรียนทั่วไป ซึ่งตนมองว่าเรื่องของจิตใจเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราสามารถเปิดใจพูดคุยกันในการใช้ชีวิตประจำวัน เนื่องจากคนเรามักจะชอบเก็บความคิดและจิตใจไว้คนเดียวไม่แสดงออกมา แต่โรงเรียนสอนให้เปิดเผยจิตใจ กล้าพูดกล้าแสดงออกทำให้เข้าสังคม เข้าหาผู้คนได้ง่าย ทั้งนี้ กิจกรรมที่ตนประทับใจในกิจกรรม Open House วันนี้คือ กิจกรรม 3.3.3 ที่ทำให้มีโอกาสเห็นแม่และน้องสาวเปิดใจพูดคุยกันในครอบครัว ทำให้รู้สึกประทับใจที่โรงเรียนมากขึ้น เพราะมีการสอนให้เราได้ปรับความสัมพันธ์กับครอบครัวหรือคนรอบข้างด้วย ตนอยากให้น้องสาวมาเรียนรู้เรื่องของจิตใจและการใช้ชีวิตที่โรงเรียนลินคอล์นเฮาส์ เพื่อให้เขาได้เติบโตในอนาคต

ด.ญ.สมฤดี บุญเกิด อายุ 14 ปี โรงเรียนไทรน้อย กล่าวว่า หลักสูตรการสอนของทางโรงเรียนที่น่าสนใจเลยอยากมาเข้าร่วมงาน Open House ถ้ามาเรียนที่นี่จะได้เน้นเรื่องภาษาอย่างแน่นอน และสามารถทำงานเป็นล่ามได้อีกด้วย ส่วนกิจกรรมที่ชื่นชอบคือ กิจกรรม 3.3.3 รู้สึกว่าได้เปิดใจที่จะพูดคุยกับครอบครัวมากขึ้น แม้ว่าจะพูดคุยกันปกติ แต่ไม่เคยได้พูดความในใจของกันและกันเลย จากกิจกรรมนี้ทำให้ได้เข้าใจคนในครอบครัวมากขึ้น

คุณนที รักธัญญะการ ศึกษานิเทศก์ เทศบาลนครรังสิต กล่าวว่า เนื่องจากทางโรงเรียนของเรารับเด็กทุกประเภทเข้ามา ทำให้บางคนก็เรียนได้แต่บางคนก็เรียนไม่ไหว พอได้มาเข้าร่วมกิจกรรม Open House ของโรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ เห็นได้ชัดว่ามีการแตกต่างออกไปเพราะมีกิจกรรมที่หลากหลายและเน้นเรื่องจิตใจด้วย คิดว่าเป็นโรงเรียนที่น่าสนใจอีกโรงเรียนหนึ่งที่ช่วยคนหาความฝันของเด็กๆ ทำในสิ่งที่เขาชอบได้และรักจริง ๆ คุณครูอาสาเองก็มีจำนวนที่สามารถดูแลเด็กได้อย่างทั่วถึง ถ้าเป็นไปได้อยากเซ็นต์ MOU กับทางโรงเรียนลินคอล์นเพื่อร่วมกันพัฒนาเด็กและบุคลากรทางการศึกษา