IYF ตอกย้ำ ‘Mind Education’ เส้นทางสู่การเปลี่ยนแปลงเยาวชนไทย สร้างจิตใจให้เข้มแข็ง ด้วยกระบวนการ ‘คิดไตร่ตรอง’ รับมือสังคมพัฒนารุดหน้า เตรียมพร้อมสู่การเป็นผู้นำของประเทศในอนาคต

 

เมื่อเวลา 12.30-13.30 น. วันที่ 17 มิถุนายน ที่อาคารกิติยาคาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ (International Youth Fellowship – IYF) จัดงานแถลงข่าวในหัวข้อ “Mind Education เส้นทางสู่การเปลี่ยนแปลงเยาวชนไทย (The Path to Thai Youth Transformation)” เพื่อแนะนำหลักสูตร Mind Education หรือการเรียนรู้โลกของจิตใจ ที่จะทำให้เยาวชนมีสุขภาพจิตใจที่แข็งแรง ส่งผลให้เยาวชนที่เคยมีปัญหายาเสพติด ติดเกม และโรคซึมเศร้า ได้รู้จักจิตใจของตัวเอง และเรียนรู้ที่จะยับยั้งชั่งใจ โดยหลักสูตรนี้ได้รับการนำไปใช้ใน 90 กว่าประเทศทั่วโลกและเกิดผลลัพธ์ในการเปลี่ยนแปลงเยาวชนอย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืน

ดร.ยองกุก พาร์ค ประธานมูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ ประจำนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ตนได้พบกับรู้จักคนชื่ออูลิโฮ อยู่ที่สหรัฐอเมริกา ชายคนนี้เสพยามาตั้งแต่อายุ 15 ปี เวลาผ่านไปเขาได้แต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่ง และมีลูก ภรรยาก็รู้สึกทนไม่ได้ที่สามีมัวแต่เสพยา เขาเองก็พยายามจะเลิก และเข้าออกสถานบำบัดเป็นสิบรอบ แต่ก็เลิกไม่ได้ ทำให้เกิดความคิดในใจว่าเขาคงเป็นคนที่ได้แต่ติดยา และต้องตายเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ วันหนึ่งเมื่อหมดหนทาง จึงตัดสินใจโทรไปหาคุณครูที่สถานบำบัด เพื่อขอเข้าบำบัดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งที่ผ่านมา เพราะเขาสามารถรับฟังแนะนำของคุณครูได้ เวลาผ่านไป 3 เดือน ก็เลิกเสพยาได้

“ก่อนหน้านี้ที่เลิกยาไม่ได้ เพราะอูลีโฮมีใจว่า เขาจะเลิกเสพยาเมื่อไหร่ก็ได้ เมื่อจิตใจเราคิดว่าทำได้ จะทำให้หูเราปิดทีละนิด แต่เมื่อเขารู้ว่าเลิกยาด้วยตัวเองไม่ได้ หูเขาจึงเปิด และรับฟังคำแนะนำการเลิกยาได้ ดังนั้นวิธีเลิกยาง่ายมาก คือแค่ฟังด้วยใจ ปัญหาของทุกคนสามารถแก้ไขได้ ด้วยใจของเรา ถ้าเราหันกลับมาดูตัวเองและคิดว่าปัญหานี้เราแก้คนเดียวไม่ได้ เราจะรับฟังเสียงของคนอื่นที่ช่วยแก้ปัญหาได้ เพราะคนที่มีสติปัญญาที่สุด คือคนที่รู้ว่าตัวเองไม่รู้”

ดร.ยองกุก พาร์ค กล่าวว่า หลักสูตร Mind Education มีส่วนประกอบหลายอย่าง ทั้งนี้ตอนที่เราสอนนักเรียน จะบอกว่าเธอมีสิ่งที่บกพร่อง และอ่อนแอ ถ้ารู้สิ่งนี้ พวกเขาจะเปิดหูรับฟังคนอื่นได้ เหมือนเมื่อเรารู้ว่าเราซ่อมรถเองไม่ได้ เราจะเอารถไปให้คนอื่นซ่อม เมื่อตอนที่เราคิดว่าเรารู้แล้ว ทางที่เราจะเรียนรู้ได้ก็จะปิดทั้งหมด วันนี้เยาวชนมากมายติดสิ่งต่างๆ ทั้งยาเสพติด เกม และเหล้า แต่เยาวชนเหล่านี้จะมีใจว่าสามารถเลิกเองได้ จึงไม่สามารถเลิกได้ เราจะสอนเยาวชนเรื่องของจิตใจ ผ่านหลักสูตร Mind Education เพื่อให้เยาวชนสามารถหลุดพ้นออกจากสิ่งเหล่านั้น คนหนุ่มสาวสมัยนี้มีการฆ่าตัวตายจำนวนมาก หลายคนที่พยายามฆ่าตัวตายและมีชีวิตอยู่ พวกเขาบอกว่ามีเสียงก้องในตัวเอง บอกให้ฆ่าตัวตาย และทำร้ายตัวเอง เมื่อได้ยินเสียงนี้ความจริงต้องรู้จักวิธีปฏิเสธให้ได้ หากไม่เคยรู้เรื่องจิตใจ คนจะไม่เคยแยกแยะว่าควรจะตามหรือไม่ควรตาม

เมื่อถามว่า หลักสูตร Mind Education มีความสำคัญกับประเทศไทยอย่างไร ดร.ยองกุก พาร์ค กล่าวว่า ไม่ใช่แค่ในไทย แต่เยาวชนทุกคนต้องเรียนรู้ หลักสูตร Mind Education เพราะการที่เยาวชนเติบโต สิ่งสำคัญคือใจที่เข้มแข็งและใจที่สดใส เพราะเขาเป็นอนาคตให้กับพวกเรา ปัจจุบันประเทศไทยมีเศรษฐกิจดีขึ้นกว่าสมัยก่อน และหลายอย่างได้รับการพัฒนา เช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกา และเกาหลี ที่เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วก็มีอัตราการฆ่าตัวตาย และเป็นโรคจิตเยอะ สหรัฐอเมริกาคือประเทศที่คนมากมายอยากไปอาศัยอยู่ ในนิวยอร์คที่ตนอยู่ เยาวชนที่นั้นน่าสงสารมาก เพราะมีปัญหาเรื่องยาเสพติด และการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ทำให้มีเยาวชนที่มีความผิดปกติด้านจิตมากขึ้น สืบเนื่องจากภาวะช็อก ยิ่งประเทศเจริญมากเท่าไหร่ เรื่องสติ และจิตของคนจะยิ่งอ่อนลงเท่านั้น ซึ่งตนมองว่าไทยเองก็เช่นกัน จึงต้องรับมือกับสิ่งนั้น และรัฐบาลไม่สามารถที่จะให้ทุกอย่างได้ อาจจะทำได้เพียงนำยารักษาไปให้ และต้องรักษาต่อเนื่องเป็นเวลานาน แต่ยารักษาไม่ได้ทุกอย่าง เพราะยาปัจจุบันเป็นยาที่ระงับประสาท และทำให้ง่วงเท่านั้น

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ที่ประเทศไทยเกิดกรณีอาจารย์ในโรงเรียนใช้อำนาจกับนักเรียน เช่นการบังคับให้ตัดผม จนเด็กฆ่าตัวตาย หลักสูตร Mind Education สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้หรือไม่ ดร.ยองกุก พาร์ค กล่าวว่า ตัวอย่างนี้มีจำนวนมาก และการถูกบังจากครูคนหนึ่งเป็นเรื่องผิด แต่ตนมองว่าหากนักเรียนมีจิตใจที่เข้มแข็ง จะสามารถผ่านไปได้ เพราะในสังคมจริงมีกฎระเบียบมากกว่านี้ บางทีก็มีความกดดัน คอยกดเราอยู่ตลอดเวลา และทำให้ประสบความสำเร็จยาก จิตใจที่อ่อนแอ เหมือนใยแมงมุม ที่สามารถดักยุง และแมลงวันได้ แต่ดักวัวไม่ได้ เพราะวัวมีพลังมาก ถ้าเรามีพลังพอก็จะทะลุปัญหาไปได้

เมื่อถามว่า มีหลักสูตรที่ชัดเจนในการนำไปปฏิบัติหรือไม่ ดร.ยองกุก พาร์ค กล่าวว่า เรามีหนังสือหลักสูตร Mind Education และขณะนี้กำลังแปลเป็นภาษาไทย เป็นบทเรียนที่สามารถนำไปสอนให้คนที่อยู่ในเรือนจำ และโรงเรียน ในสหรัฐอเมริกาได้นำไปสอนให้ตำรวจ และนักดับเพลิงด้วย ทั้งนี้ ในหนังสือจะมีคำอธิบาย และกิจกรรมให้ทำมากมาย

ด้าน ดร.ฮักเชิลคิม ผู้ก่อตั้ง IYF ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่ที่ไทยได้ 27 ปีแล้ว ทำให้ได้มีโอกาสพบปะเยาวชนหลายแบบหลายกลุ่ม และได้ให้คำปรึกษากับคนมากมาย ปัจจุบันไทยมีปัญหาเรื่องยาเสพติดมากขึ้น และคนมากมายเลือกอยู่กับตัวเองทำให้เป็นซึมเศร้า เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ตนได้จัดงานอบรมบุคลากรด้านการศึกษา ที่จ.ศรีษะเกษ คุณครูต่างพูดเหมือนกันว่า มีนักเรียนที่ไม่สามารถเรียนต่อมากขึ้น และมีหลายอย่างเกิดขึ้นในโรงเรียนมากขึ้น ทำให้นักเรียนเรียนต่อไม่ได้ ทางโรงเรียนก็หาทางแก้ไม่ได้ ตนจึงพยายามลองหาวิธีแก้ โดยใช้หลักสูตร Mind Education ที่เคยช่วยเปลี่ยนชีวิตของนักเรียนจำนวนมาก

“ความจำเป็นของ Mind Education คือ การคิดไตร่ตรอง ที่ปัจจุบันคนขาดสิ่งนี้ เช่น คิดว่าเสพยาเสพติดดี โดยไม่คิดว่าถ้าติดยาแล้ว จะเรียนต่อไม่ได้ และไม่คิดว่าพ่อแม่จะรู้สึกอย่างไร หมายความว่า สายตาเริ่มมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ข้างหน้า หรือนาคต หลักสูตร Mind Education จึงช่วยให้เยาวชน คิดรอบสอง และคิดให้ลึกมากขึ้น” ดร.ฮักเชิลคิม กล่าว

ดร.ฮักเชิลคิม กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่เราเน้นมากที่สุด คือการไม่คิดรอบเดียว แต่ให้คิดอย่างน้อยอีกรอบหนึ่ง แล้วช่วยให้คิดรอบสอง สาม และสี่ อีกเรื่องที่สำคัญคือ การมีคนรอบข้างคอยโอบกอดเยาวชน เราต้องทำความเข้าใจเขา และจะต้องแบ่งปันจิตใจ เพื่อทำให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น โรงเรียนลินคอล์นเฮาส์ ที่เราก่อตั้งขึ้น มีนักเรียนคนหนึ่งชื่อน้องแม้ว อายุ 20 ปี ในอดีตเขาเคยติดยา และขายยา ทั้งยังมีส่วนในการฆ่าคน ซึ่งหลังก่อเหตุในจิตใจของเขารู้สึกทรมานจนอยากจะฆ่าตัวตาย วันหนึ่งได้พบกับโรงเรียนของเรา และสมัครมาเรียน เมื่อเข้ามาเรียนก็สร้างเรื่องต่อยตีกับเพื่อน จนคิดว่าน่าจะถูกไล่ออก แต่เมื่อเขามาพบตน ตนได้พูดกับเขาว่าแม้ตอนนี้ดูเหมือนว่าตัวเองจะเป็นหนอนที่คนอื่นรู้สึกแย่กับเธอ แต่ตนมองเขาว่า เขาคือผีเสื้อ ทำให้เขารู้สึกตกใจมากและไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูด เพราะมันตรงข้ามกับสิ่งที่คนอื่นมองเขามาก ตนเห็นนักเรียนหลายคน ที่คนอื่นเรียกว่าเป็นเด็กมีปัญหา แต่ตนเชื่อว่าเมื่อพวกเขาแบ่งปันจิตใจ และรับจิตใจผู้อื่นนักเรียนเหล่านี้ จะสามารถเป็นส.ส. และผู้นำที่สำคัญของประเทศไทยได้ เราสอนนักเรียนด้วยความเชื่อนี้

“การเรียนในโรงเรียนก็เหมือนกับการว่ายน้ำในสระ แต่การให้เรียนหลักสูตร Mind Education คือ การสอนให้เล่นกระดานโต้คลื่นในทะเล ที่มีความอันตราย และมีความเสี่ยงมากมาย ถ้านักเรียนได้เรียนหลักสูตร Mind Education ก็จะมีสติปัญญาเอาชนะคลื่นที่เข้ามาหา และยังสามารถมีความสุขและสนุกกับมันได้ ประเทศไทยมีปัญหาหลายเรื่องแต่เรามาสามารถสร้างความสุขร่วมกันโดยการมีจิตใจเข้มแข็งได้” ดร.ฮักเชิลคิม กล่าว