“เจาะพื้นฐานจิตใจ แก้ปัญหาวัยว้าวุ่น” กับ Healing Mind ครั้งที่ 14

 

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 สิงหาคม ที่โรงเรียนบางสะพานวิทยา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ (International Youth Fellowship – IYF) ได้จัดงาน Healing Mind ครั้งที่ 14 เพื่อให้ทักษะในก้าวข้ามปัญหาทางใจกับเหล่าวัยรุ่น ด้วยการเข้าใจพื้นฐานของจิตใจอย่างแท้จริงผ่านการเล่นกิจกรรมและการฟังบรรยายตามหลักสูตร Mind Education  ในครั้งนี้มีนักเรียนภายในโรงเรียนให้ความสนใจเข้าร่วมกว่า 100 คน

ในช่วงแรก เป็นการทำกิจกรรมเพื่อละลายพฤติกรรม การชมวิดิทัศน์แนะนำ IYF อีกทั้ง น้องๆ นักเรียนยังได้มีโอกาสรับชมการแสดง Warrior การแสดงเต้นวัฒนธรรมจากทวีปแอฟริกา ที่นำแสดงโดยนักเรียนจากโรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ ประเทศไทย

ต่อมาเป็นกิจกรรม Mindset Academy ในครั้งนี้เน้นสร้างความเข้าใจเรื่องความสำคัญของการหักห้ามจิตใจ ผ่านการทำกิจกรรมที่ชื่อว่า Who am I? ซึ่งทำให้น้องๆ ได้มีโอกาสคิดและทบทวนความต้องการของตนเองไปพร้อมๆ กับการตระหนักถึงผลกระทบจากการตัดสินใจของตนเอง โดยมีการยกตัวอย่างถึง Mindset ของคนที่มีอาการติด ที่ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่า วันหนึ่งจะกลายเป็นคนติดเกมส์ ติดการพนัน ติดการช้อปปิ้ง แต่เป็นความคิดที่ว่า นิดเดียวไม่เป็นไรหรอก ลองหน่อย เดียวไม่เป็นไรหรอก ท้ายที่สุดก็จะถูกความต้องการของตนเองลากไปให้หลงทาง เกิดผลกระทบมากขึ้นจนกัดกินตัวเรา และเกิดเป็นความเสียหายรุนแรง

อีกทั้งยังมี Academy ความสัมพันธ์ ที่น้องๆ ได้เรียนรู้การเชื่อมต่อและไหลเวียนจิตใจของตนเองกับผู้อื่น เปรียบได้กับการหายใจ ที่เป็นการนำเอาคาร์บอนไดออกไซด์หรือความคิดของตัวเราเองออกไป และรับออกซิเจนซึ่งก็คือคำแนะนำที่เป็นประโยชน์จากผู้อื่นเข้ามานั่นเอง

จากนั้นเป็นช่วงแบ่งปันประสบการณ์จากนักเรียนโรงเรียนลินคอล์น เฮาส์ ที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงจิตใจจากหลักสูตร Mind Education โดย น.ส.สุชานันท์ จะขุ่ย (น้องดา) อายุ 15 ปี เธอได้กล่าวถึงชีวิตของตนเองที่สูญเสียคุณแม่ตั้งแต่วัย 3 ขวบ ต่อมาไม่นานคุณพ่อก็แต่งงานมีภรรยาใหม่ ทำให้เธอเกิดความรู้สึกน้อยใจและเก็บจิตใจนี้ไว้เพียงลำพัง เมื่อถึงวัยมัธยมก็เริ่มโหยหาความสุขจากเพื่อนๆ หรือแฟนมากขึ้น และมีการทดลองใช้สารเสพติด จนกระทั่งวันที่โดนเพื่อนและแฟนหักหลัง เธอก็เก็บตัวอยู่คนเดียว ไม่เห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่และนำไปสู่ความคิดอยากฆ่าตัวตาย

นับวันความสัมพันธ์ของดาและคุณพ่อยิ่งแย่ลง คุณพ่อไม่รู้จะต้องจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร จนญาติมาแนะนำ ร.ร.ลินคอล์น เฮาส์ ว่าสอนเกี่ยวกับเรื่องโลกของจิตใจที่ทำให้เยาวชนมากมายได้รับการเปลี่ยนแปลง คุณพ่อจึงตัดสินใจส่งดาเข้าเรียนแบบไม่คิดอะไร ขอแค่ลูกสาวเปลี่ยนแปลงก็พอ แรกๆ ดาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องตื่นเช้า ทำไมต้องนั่งเรียน หรือทำไมต้องฟังบรรยาย บางครั้งก็มีความคิดเข้ามาว่าทำไมสถานการณ์ไม่เป็นอย่างที่ตัวเองคิด จนเริ่มสิ้นหวัง เกิดการตั้งคำถามกับตัวเองว่า “แล้วคนอย่างฉันมันจะเปลี่ยนแปลงได้ไหม” แต่คำพูดของคุณครูและผู้อำนวยการโรงเรียนได้เข้ามาในจิตใจของเธอ “ถ้าจิตใจเปลี่ยน ชีวิตก็เปลี่ยน” และคุณครูก็เน้นย้ำกับเธอว่า ความคิดของตัวเราเองมันไม่ได้ถูกต้องเสมอไป เธอปล่อยให้มันเติบโตกัดกินความหวังและทำลายความสัมพันธ์ของเธอกับคุณพ่อ เมื่อเธอเริ่มทิ้งความคิดของตนเองและไหลเวียนจิตใจกับผู้อื่น ก็ทำให้เธอรู้ว่าเธอสามารถมีความสุขได้เพียงแค่เปลี่ยนจิตใจของตนเท่านั้นเอง

สำหรับช่วงที่สำคัญที่สุดก็คือการบรรยายจากคุณดาวิด คิม ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันโลกของจิตใจนานาชาติ ซึ่งได้บรรยายในหัวข้อ “การเชื่อมโยงจิตใจ” กล่าวว่า เรามีใจแบบไหน เรามีความเชื่ออย่างไร เราก็จะเป็นอย่างนั้น ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงเกิดจากการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แม้สถานการณ์ตรงหน้าจะไม่ได้เป็นแบบที่เราเชื่อก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น คุณพ่อของมินซอบที่มีลูกชายเป็นออทิสติก เมื่อมองดูที่ลูกชายก็มองเห็นแค่ความไม่ปกติและเกิดเป็นความรู้สึกยากลำบาก แต่คุณพ่อก็เลือกจะเชื่อมต่อจิตใจกับคนที่ให้ความหวังกับตนเอง ซึ่งก็คืออาจารย์อ็อก ซู พาร์ค ผู้ก่อตั้ง IYF ที่ได้ให้ความเชื่อกับคุณพ่อว่า ลูกคือเด็กปกติ เมื่อใจของคุณพ่อเปลี่ยน มองว่าลูกคือเด็กปกติ และเลี้ยงมินซอบด้วยจิตใจใหม่ มินซอบก็สามารถเป็นเด็กที่เรียนจบมหาวิทยาลัยได้เหมือนเด็กทั่วๆ ไป เช่นกันกับนักเรียนใน ร.ร.ลินคอล์น เฮ้าส์ และน้องๆ ผู้เข้าร่วมในวันนี้ ไม่ว่าเจอปัญหาอะไรในตอนนี้ อย่าเชื่อสิ่งนั้น แต่ให้รับในสิ่งที่อาจารย์เชื่อในตัวพวกเขาว่าพวกเขาคือนักเรียนที่ยอดเยี่ยม เป็นดวงดาวและเป็นผู้นำ เพราะพลังของการเชื่อมโยงจิตใจคือพลังที่สามารถเปลี่ยนแปลงปัจจุบันให้ดีขึ้นได้ จงเชื่อมโยงใจเรากับผู้อื่นที่ให้ความหวังกับเราได้ เหมือนคุณพ่อของมินซอบที่เชื่อมต่อจิตใจกับอาจารย์พาร์ค

ในช่วงสุดท้าย ก็มีกิจกรรม Group Talk ที่น้องๆ จะได้พูดคุยกับพี่ๆ สต๊าฟถึงเรื่องโลกของจิตใจอย่างใกล้ชิด และได้มีโอกาสเขียนจดหมายถึงสิ่งที่น่าขอบคุณในชีวิต ผ่านการพูดคุยในครั้งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่น้องๆ จะได้ไหลเวียนจิตใจของตนเองกับผู้อื่น