2019 IYF Dance Camp Thailand ค่ายสานฝันสำหรับคนรักการเต้น

เมื่อวันที่ 24-25 สิงหาคมที่ผ่านมา มูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ หรือ IYF  ได้จัด IYF Dance Camp ขึ้น ที่ศูนย์ฝึกอบรม IYF Center รังสิต โดยมีผู้เข้าร่วมจากทั่วประเทศ ทั้งนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และนิสิตนักศึกษากว่า 120 คน

IYF Dance camp ครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยกล้าแสดงออกในทางที่สร้างสรรค์ และเพื่อสร้างผู้นำแห่งโลกอนาคต โดยกิจกรรมช่วงเช้าในวันแรกนั้น เน้นให้ผู้เข้าร่วมทำความรู้จักกับ IYF และเพื่อนในแคมป์

เริ่มจากเล่นเกม Boom Snap Clap เกมออกท่าทางประกอบเพลง ชมการแสดงเต้นจากทีม The Righteous Stars, Culture Dance และฟังบรรยาย Mind Training

อาจารย์คิม ฮัก ชอล ที่ปรึกษาอาวุโสของ IYF ได้บรรยายเกี่ยวกับการทำงานเป็นทีม และความอดทนต่อความยากลำบาก โดยยกตัวอย่างเรื่องของเพนกวินจักรพรรดิ “ตอนดูสารคดีอาจจะรู้สึกน่าเบื่อหน่อย แต่อยากให้พวกคุณได้เรียนรู้จากสัตว์เหล่านี้ เพนกวินจักรพรรดิเดินทางไกล ต้องทนลม ทนหนาว ทนหิว และใช้วิธี “Huddling” คือการกอดกันไว้เป็นกลุ่มเพื่อเอาชนะแรงลมที่พัดมาระหว่างเดินทางไป Omuk เพื่อคลอดลูกแพนกวิน 1 ชีวิต อันที่จริงถึงแม้คุณจะเต้นเก่งหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญในการเรียนเต้น เพราะถ้าคุณเต้นเก่งคนเดียว แต่ไม่สามารถร่วมทีมกับคนอื่นได้ก็ไม่มีความหมาย หรือถ้าคุณเป็นคนที่เต้นไม่เก่ง แต่ไม่ยอมที่อดทน หรือเหนื่อยกับการซ้อม คุณก็ไม่สามารถเต้นเก่งได้เหมือนกัน IYF จัดแคมป์นี้มาไม่ใช่เพื่อให้เราเต้นเก่งอย่างเดียว แต่เพื่อฝึกจิตใจของพวกคุณให้รู้จักการทำงานเป็นทีม และเรียนรู้ที่จะต่อสู้กับความยากลำบากด้วย” 

กิจกกรรมในช่วงบ่ายเริ่มต้นด้วย Dance Academy ที่แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงละ 2 กลุ่ม โดยได้รับความร่วมมือจากครูกานต์ ครูยุทธ และครูใบหม่อน จาก สถาบัน Superstar College of Arts มาเป็นคุณครูอาสาสมัครสอนเต้นในคลาส K-pop Dance และ Hip-Hop และรุ่นพี่ใน IYF Dance Team สอนเต้นในคลาส Dance Beginner (Dance Basic) และ Dance Beginner (Hip-Hop) โดยบรรยากาศในการเรียนเป็นไปอย่างสนุกสนาน ถึงแม้น้องๆ บางคนจะไม่เคยเรียนเต้นมาก่อน แต่ก็มีความตั้งใจในการเรียนอย่างเต็มที่ ในขณะที่คุณครูเองเมื่อเห็นน้องๆ ตั้งใจเรียนก็มีความสุขในการสอน คอยให้กำลังใจน้องเรื่อยๆ และช่วยให้น้องๆ ได้สนุกกับการเรียนไปพร้อมๆ กัน

“เด็กๆ น่ารักแล้วก็หัวไวมาก สามารถทำตามคุณครูได้แทบทั้งหมด แต่ที่ประทับใจกว่านั้นคือ รู้สึกดีที่ตัวเองตัดสินใจมาสอนในแคมป์นี้ แล้วเห็นว่ามันเป็นโอกาสดีของเด็กๆ ที่มีการจัดกิจกรรมแบบนี้ ผมว่าโครงการของ IYF เป็นโครงการที่ดีอีกโครงการหนึ่งเลย ที่สำคัญ คือ ใครๆ ก็เข้ามาได้ แค่มีใจกล้าที่จะออกมาก็จะได้เจอสังคมใหม่ๆ” -ครูกานต์/วิทยากรผู้สอนจาก Superstar College of Arts

หลังจากนั้น น้องๆ ได้พักจากการเต้น มาเล่นเกม Mind Recreation เกมที่ให้แง่คิด ตามแบบฉบับของ IYF ในเกมโคลนนิ่งมนุษย์ที่สมาชิกในกลุ่มจะต้องโพสต์ท่าถ่ายรูปตามแบบที่พิธีกรกำหนด โดยมีเวลาให้มองภาพต้นฉบับและวางแผนร่วมกันเพียงแค่ 40 วินาที

ตามด้วยเกมแมวจับหนูที่ต้องมีเพื่อนที่ถูกปิดตาและวิ่งไล่จับเพื่อนอีกทีมที่ถูกปิดตาเช่นกัน โดยอาศัยการเคลื่อนที่ตามเสียงที่เพื่อนในกลุ่มบอกเท่านั้น

ปิดท้ายด้วยเกมเป่ายิงฉุบเขาวงกต ที่ต้องอาศัยทั้งไหวพริบและความช่างสังเกต โดยทั้ง 2 ทีมจะต้องวิ่งเข้าหากัน และเป่ายิงฉุบ หากคนใดชนะจะได้วิ่งไปข้างหน้าต่อ ในขณะที่สมาชิกในทีมที่แพ้ก็ต้องวิ่งมารับช่วงต่อ จนกว่าทีมใดจะวิ่งไปถึงฝั่งของทีมตรงข้ามได้ จึงจะเป็นผู้ชนะ

หลังจากใช้เวลาพักผ่อนในช่วงเย็นอย่างเต็มที่แล้ว น้องๆ ก็ได้เรียนรู้เรื่องโลกของจิตใจอีกครั้ง โดยอาจารย์คิม ดาวิด ได้บอกเล่าถึงความสำคัญของการเชื่อมโยงของจิตใจ

“ต้นเรดวูด เป็นต้นไม้ที่สูงถึง 100 เมตร แต่มีรากหยั่งลึกเพียงแค่ 3 เมตรเท่านั้น เคล็ดลับที่ทำให้มันสามารถยืนต้นอยู่ได้ คือ รากของมันที่เชื่อมโยงถึงกันและกัน จนเป็นฐานที่แข็งแรง คนเราก็เช่นเดียวกัน หากต้องการที่จะประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะในเรื่องใดๆ ก็ตาม สิ่งสำคัญคือ การรู้จักเชื่อมโยงจิตใจเข้าหาผู้อื่น รู้จักการแชร์จิตใจ พูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้สึก หรือประสบการณ์ระหว่างกัน สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณประสบความสำเร็จและเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงเหมือนต้นเรดวูดแน่นอน”

ปิดท้ายกิจกรรมในวันแรกด้วยกรุ๊ปมีตติ้ง เป็นช่วงเวลาที่น้องๆ และพี่ๆ ทีมงานได้นั่งคุยกันถึงประสบการณ์ และความชื่นชอบในการเต้น รวมถึงจิตใจที่จะใช้ในการเต้นด้วย

กิจกรรมในวันที่ 2

ก่อนจะเริ่มชั่วโมงเรียนเต้นในช่วงเช้า น้องๆ ได้เรียนเรื่องโลกของจิตใจจากคุณสุกิตต์ เอี่ยมเลิศตระกูล ประธานมูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ โดยได้บอกเล่าเกี่ยวกับจิตใจที่ยอมทิ้งความคิดของตัวเองและรับฟังเสียงของคนอื่น เรียนรู้ที่จะใช้การฟังคนอื่นเพื่อพัฒนาและก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง ถึงแม้หลายครั้งจะเจอสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่ถ้าเราสามารถฟังคนรอบข้างได้ เราก็สามารถก้าวข้ามปัญหาและอุปสรรคนั้นได้

จากนั้นน้องๆ ได้เข้าร่วมกิจกรรมสันทนาการสั้นๆ ก่อนที่จะได้เข้าคลาสเรียนเต้นที่ประทับใจสุดๆ ทั้งผู้เรียนและผู้สอน โดยคลาสเรียนเต้นวันนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก ‘B House Studio’ โดยมีคุณครูถึง 16 คน มาจัดคลาสเรียนสุดพิเศษให้ถึง 4 คลาส ทั้ง

• Urban Choreo การผสมผสานการเต้นหลายๆ แบบตามทำนองดนตรีให้ผู้เต้นมีอิสระในการเคลื่อนไหวร่างกาย
• Street Jazz การเต้นที่ ผสมระหว่าง Jazz และ Hip-Hop ท่าทางการเต้นรำจะมีความยืดหยุ่นมากกว่า JAZZ DANCE มีความทันสมัยมากขึ้น มีกลิ่นของการเต้น Hip-Hop เข้าไปผสม ซึ่งเป็นการเต้นที่ไม่ซับซ้อน คนที่จะเรียนคลาสนี้ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานมาก่อน
• K-pop การเต้นตามแบบฉบับศิลปินเกาหลี ที่ท่าเต้นมีความชัดเจน และแข็งแรง
• Hip Hop เป็นการเต้นตามจังหวะของดนตรี Hip Hop โดยผู้เต้นจะเต้นเน้นจังหวะตามจังหวะของกลองและเสียงกีตาร์เบส  มีการเลียนแบบการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์  และกิริยาอาการต่างๆ ในชีวิตประจำวันของคนเราแล้วนำมาปรับเปลี่ยนเป็นท่าเต้นท่าต่างๆ เพื่อความหลากหลายมากขึ้น

 “ดีใจมากที่ได้มา  B House studio ได้ร่วมงานกับ IYF เป็นครั้งที่ 5 แล้ว เรารู้สึกว่ากิจกรรมของ IYF ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เป็นโอกาสที่ดีที่เราได้เข้าร่วม แล้วเราก็เติบโตขึ้นด้วย ครั้งนี้สนุกมากครับ อยากให้มีกิจกรรมดีๆ แบบนี้อีกเรื่อยๆ แล้วก็ขอบคุณที่ IYF ชวนมาเป็นวิทยากรร่วมด้วยครับ”-แบงค์ (วิทยากรผู้สอนเต้น/เจ้าของ B house Studio)

ก่อนที่จะถึงเวลากลับบ้านยังมีกิจกรรมสุดพิเศษ คือ การแสดง Show Case ของน้องๆ ที่เข้าร่วมแคมป์ทุกคน ครั้งนี้ จัดกลุ่มการแสดงออกเป็น 8 กลุ่ม โดยน้องๆ เลือกเข้ากลุ่มตามความสมัครใจ สมาชิกในกลุ่มจะต้องคิดการแสดงเอง แม้ว่าหลายๆ คนจะรู้จักกันครั้งแรกผ่านการเข้าแคมป์ในครั้งนี้ แต่ช่วงเวลาที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ก็ทำให้ทุกคนสามารถพูดคุย และจัดกลุ่มกันได้อย่างง่ายดาย

แม้ว่าจะมีระยะการจัดงานสั้นๆ เพียง 2 วัน 1 คืน แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่มีความหมาย เราเชื่อว่าผู้เข้าร่วมจะได้รับประสบการณ์ ความรู้เกี่ยวกับการเต้นได้ผ่านทางการเรียนรู้จากคนอื่น ตามจุดประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ ไม่เพียงได้ความรู้ผ่านการเต้น แต่ยังได้เรียนรู้เรื่องโลกของจิตใจ ตั้งแต่การรู้จักจิตใจตนเอง ทิ้งความคิดของตัวเอง เชื่อมโยงจิตใจกับผู้อื่น ยอมทนกับความยากลำบาก และรู้จักการทำงานเป็นทีม ทั้งนี้อาจารย์คิมฮักชอลยังทิ้งท้ายไว้ด้วยว่าอยากให้เด็กไทยใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และมีความหวังว่านักเรียนจะได้มาร่วมงานกับ IYF เยอะขึ้นเรื่อยๆ