2019 GNC Reunion คืนสู่เหย้า เหล่าอาสาสมัครต่างประเทศ
กลับมาอีกครั้งกับบรรยากาศที่ทุกคนคิดถึง ในงาน 2019 GNC Reunion โดยครั้งนี้จัดที่ IYF Center ศูนย์รังสิต และโรงแรมจันทิมา บูติค โฮเต็ล ชะอำ จ. เพชรบุรี เมื่อวันที่ 27-29 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ภายในงานมีอาสาสมัครต่างประเทศที่เคยเข้าร่วมโครงการ Good News Corps ตั้งแต่รุ่นที่ 1-12 และรุ่นที่ 13 ที่กำลังเตรียมตัวเพื่อไปต่างประเทศต่างมาทำกิจกรรมร่วมกัน💖ทั้งหมด 255 คน
โดยในวันแรกนั้นเริ่มต้นด้วยการแสดงมากมาย อาทิ ทีมเต้น The Righteous Stars, การเต้นวัฒนธรรมจากประเทศอเมริกาใต้ ในชุดการแสดง “La ola” และวงดนตรี Good News Band ในบทเพลง ‘Goose’s dream’ เพื่อให้ความหวังสำหรับคนที่มีความฝัน แม้มองดูที่ตัวเองแล้ว เหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้และเพลง ‘การเดินทาง’ เพราะงาน Reunion ครั้งนี้เปรียบเสมือนการเดินทางของพวกเราที่จะได้เรียนรู้จิตใจกันและกันและรำลึกถึงช่วงชีวิตอาสาสมัครที่ผ่านมา🚌
ชั่วโมงบรรยาย อาจารย์ฮักเชิล คิม ได้บรรยายในหัวข้อหลักเรื่อง ‘การเชื่อมโยงจิตใจ’
“สิ่งที่เรียกว่าความทุกข์บางครั้งก็ไม่ใช่ความทุกข์ ดูแล้วเหมือนโชคร้ายแต่เมื่อจิตใจมีความสุขก็เป็นคนที่มีความสุขได้ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ ที่พระเจ้าให้เจอสถานการณ์โชคร้าย ไม่ใช่พระเจ้าเกลียดแล้วให้เจอ ปัญญาจารย์ บทที่ 2:18 เพื่อให้เรารู้ว่าเราไม่ต่างอะไรกับสัตว์ เมื่อเห็นว่าตัวเองไม่มีค่าอะไรจริงๆ ก็สามารถเงียบฟังพระคำและเชื่อมต่อกับพระเจ้าได้ ยกตัวอย่าง ซิสเตอร์มุนฮเยจิน เธอเคยสิ้นหวัง เคยมีคำบ่น แต่เมื่อได้เชื่อมต่อกับผู้รับใช้ของพระเจ้า เธอก็กลับมามีความหวังได้”
หลังจากทานอาหารกลางวัน กิจกรรมแรกของช่วงบ่ายคือ Folk dance ทุกคนร่วมใจกันเต้นอย่างสนุกสนานและพิธีกรยังได้เชิญคู่ GNC ที่แต่งงานแล้วขึ้นเต้นโชว์บนเวทีด้วย บรรดา GNC ที่ยังไม่แต่งงานต่างส่งเสียงหัวเราะและเสียงโห่ร้องอย่างมีความสุข🤣
ในช่วงกิจกรรมสันทนาการนั้น ได้มีการแบ่งกลุ่มเป็น 4 ทีม ตามทวีปที่แต่ละคนเคยเป็นอาสาสมัคร ได้แก่ ทีมสีน้ำเงิน ประกอบด้วย อเมริกา อเมริกาใต้ แอฟริกาตะวันตกและโอเชียเนีย, ทีมสีเขียว ประกอบด้วย แอฟริกาทั้งหมด, ทีมสีแดง ประกอบด้วย ประเทศในแถบเอเชีย และทีมสีเหลือง ประกอบด้วย เกาหลีและญี่ปุ่น เพื่อสานสัมพันธ์และทำความรู้จักระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้อง ไม่เพียงแค่เล่นเกมเท่านั้น ยังมีกองเชียร์ของแต่ละสีที่ทั้งร้องทั้งเต้นอย่างสร้างสรรค์บรรยากาศจึงคึกคัก เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ช่วง Group Meeting มหาวิทยาลัย สานสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นน้องๆ รุ่น 13 มีโอกาสได้สอบถามพี่ๆหลังจากกลับมาจากต่างประเทศทั้งเรื่องการเรียนและการทำงาน
โปรแกรมในช่วงค่ำนั้นเริ่มด้วยการแสดง The Righteous Stars, การเต้นวัฒนธรรมจากประเทศอินเดีย “Tattad”, ละคร True Story ชีวิตหลังการเป็นอาสาสมัครของ ‘แต๋ม’ จากที่เมื่อก่อนไม่เคยสนใจคุณพ่อ พอกลับมาได้มีโอกาสเปิดใจคุยกันกับพ่อมากขึ้น และสามารถใช้ชีวิตนึกถึงคนอื่นก่อนได้ ต่อด้วยรับฟังบทเพลงจากวงประสานเสียงเซโนเร ในบทเพลง I Just Keep Trusting My Lord และ Focus on The Lord
จากนั้นอาจารย์ฮักเชิล คิมได้บรรยายถึง การเอาชนะจิตใจที่สิ้นหวัง
“ปัญญาจารย์ บทที่ 2:10-11 การได้ทำอะไรตามใจจริงๆ แล้วเป็นสิ่งที่โง่เขลา และชั่วร้าย คนที่พระเจ้าพอพระทัย คือคนที่เชื่อในพระคำของพระเจ้านั่นเอง แต่คนชอบจิตใจของตัวเองทั้งที่ใจตัวเองสกปรกขนาดนั้น จึงตัดสินคนอื่นได้ง่าย จมในความเศร้าและตัณหาง่าย แต่ในพระคำของพระเจ้าบอกว่าจะให้ชัยชนะความเศร้าความสิ้นหวังนั้น เหมือนซิสเตอร์มุนฮเยจิน แม้จะรู้สึกว่าจะเดินไม่ได้ แต่เขาก็ไม่มีวิธีอื่นนอกจากเชื่อพระคำ เมื่อเชื่อมกันพระคำก็มีกำลัง”
ก่อนเข้านอนได้มีการรวมตัวกันแต่ละรุ่นเพื่อแบ่งปันจิตใจและเตรียมการแสดงร่วมกัน คนที่ห่างหายจาก IYF ไปนานเริ่มพูดถึงชีวิตของตัวเองที่ผ่านมา เรื่องราวความทุกข์ในใจ และสิ่งที่ได้รับจากการฟังบรรยาย
ในวันที่ 2 ได้ย้ายสถานที่จัดกิจกรรมไปที่โรงแรมจันทิมา บูติค โฮเต็ล ชะอำ จ. เพชรบุรี แม้ว่าการเดินทางจะเหน็ดเหนื่อย แต่ทุกคนก็ยังสนุก และดำเนินกิจกรรมต่อไป โดยเริ่มกิจกรรมแรกด้วย Sport Game เหล่า GNC เล่นเกมกันอย่างสนุกสนาน เหงื่อท่วมตัว ทำให้ทานอาหารเย็นอย่างเอร็ดอร่อย จากนั้นจึงได้แยกย้ายกันเข้าที่พักและมารวมตัวที่ห้องประชุมอีกครั้งในเวลา 19.00 น. โดยเริ่มจากการแสดงประสานเสียงสุดไพเราะ จากวงเซโนเร ในบทเพลง ‘For the beauty of the earth,The Lord is So Good ,Sun and Moon และ It is well with my soul’
อาจารย์ ฮักเชิล คิม ได้บรรยายหัวข้อ ‘การค้นพบตัวเองอย่างแท้จริง’
“2 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 6: 26-33 เวลาที่มีปัญหา เราก็จะแสวงหาวิธีของเราเอง แต่ไม่เคยคิดจะแสวงหาพระเจ้าหรือขอให้พระเจ้าช่วย พยายามใช้สมองของพวกเราใช้วิถีทางของมนุษย์แล้วก็แก้ไขปัญหานั้น สุดท้ายต้องสิ้นหวังและพังพินาศ ไม่ต่างอะไรกับการต้มลูกของตัวเองกิน ต่างจากคนโรคเรื้อนทั้ง 4 คน แม้ว่าจะเดินไปแล้วล้มลงก็ฝากไว้กับพระเจ้า อาจารย์ได้ยกตัวอย่างถึงตอนที่มาประเทศไทยครั้งแรกก็ลำบากและล้มลงหลายครั้ง แต่อาจารย์เชื่อว่าเส้นทางที่ฉันจะมีความสุขได้ขึ้นอยู่กับพระหัตถ์ของพระเจ้าเท่านั้น แล้วพระเจ้าก็ทำให้เสียงล้มนี้เป็นเสียงของทหารม้า ศัตรูก็ได้แต่หนีไป ความสิ้นหวังก็หายไปในที่สุด”
และช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุดของเหล่า GNC ก็มาถึง การแสดงพิเศษประจำรุ่น! ทุกคนต่างตื่นเต้นที่ตัวเองจะได้ขึ้นแสดงและชมการแสดงจากรุ่นอื่นๆ เหมือนได้ย้อนเวลาไปทำกิจกรรมช่วงอาสาสมัครอีกครั้ง แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็สร้างสีสันให้กับค่ำคืนนี้เป็นอย่างดี และต่อด้วยกิจกรรมจับของขวัญก่อนเข้านอน🎁
และวันสุดท้ายในช่วงเช้านั้น มีชั่วโมงให้ได้คิดทบทวนถึงสิ่งที่อาจารย์ได้พูดตั้งแต่วันแรกของงาน และให้ทุกคนเขียนออกมาเป็นคำพยาน ทำให้ทุกคนได้มีโอกาสคิดและทบทวนเกี่ยวกับจิตใจของตัวเอง เพราะมากกว่าการได้มาเที่ยวเล่น สนุกสนาน การได้ทบทวนจิตใจก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด มี GNC มากมายขึ้นให้คำพยานของตัวเองบนเวทีอีกด้วย
ก่อนที่กิจกรรมจะสิ้นสุดลงอาจารย์ได้แบ่งปันจิตใจโดยยกข้อพระคำ มัทธิว บทที่ 21:33-46 จริงๆ พระเจ้าได้จัดเตรียมทุกอย่างไว้ให้เราหมดแล้ว แต่เรากลับคิดว่าตัวเราเป็นเจ้าของชีวิตของเราเอง ซึ่งตอนที่เจอกับความยากลำบาก เราจึงได้แต่ต้องพยายามแก้ไขปัญหานั้นด้วยตัวเอง แต่พระเจ้าเป็นคนที่อนุญาตให้ความยากลำบากต่างๆ นั้นเกิดขึ้น การแก้ไขปัญหาด้วยสติปัญญาของมนุษย์นั้นจึงนับว่าเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายที่สุด เราจึงไม่สามารถที่จะมีความสุขที่แท้จริงได้ แต่ว่าเมื่อตอนที่เราได้รู้อย่างชัดเจนว่า ตัวเรานั้นมีเจ้านายซึ่งคือ พระเจ้าที่คอยดูแล และฝากทุกอย่างไว้ที่พระองค์ ก็สามารถที่จะวางใจและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้”
“จิตใจก่อนมางาน รู้สึกสิ้นหวังทุกอย่าง เพราะตัวเองได้พยายามมาทุกอย่างแล้วทั้งเรื่องงาน เรื่องความรักแต่ก็ไม่เคยมีความสุขเลย รู้สึกว่างเปล่า การมางานครั้งนี้ก็ได้ฟังพระคำ ได้คุยกับเพื่อนๆ รุ่นน้อง และอาจารย์ ทำให้เห็นว่าความสุขไม่ได้อยู่ที่เราพยายามยังไง แต่เราตามพระเจ้ายังไงมากกว่า ทุกครั้งไม่เคยตามพระเจ้าเลย แต่วันนี้อยากที่จะกลับมา อยากใช้ชีวิตรับใช้พระเจ้า อยากอยู่กับพี่น้อง ตอนที่มองพี่ๆ เพื่อนๆ ที่โบสถ์ได้เห็นรอยยิ้มที่มีความสุขจากใจจริงๆ ก็อยากที่จะมีรอยยิ้ม อยากมีจิตใจที่มีความสุขเหมือนตอนที่ได้ไปเป็น อาสาสมัครค่ะ”
“รู้สึกขอบคุณและดีใจ ที่ได้มารวมตัวเจอน้องๆ พบเจอพี่ๆ จริงๆ แล้วก็มีหลายอย่างที่ประทับใจ อย่างตอนที่ได้นั่งรถมาที่ชะอำด้วยกันก็ได้มีโอกาสแบ่งปันจิตใจและฟังประสบการณ์จากน้องๆ ที่ไปแล้วกลับมาเป็นยังไงบ้าง รู้สึกว่าพอมันโตขึ้น เริ่มทำงานก็รู้สึกว่าไม่ค่อยได้มีโอกาสคุยกัน แต่พอมางานนี้ก็มีโอกาสได้พูดคุยกันมากขึ้น เหมือนได้เชื่อมต่อความสุขระหว่างกันและกัน รู้สึกดีใจมากครับ”
ก่อนจากกันพวกเราได้จัดกิจกรรมจับสายรหัสระหว่างรุ่นพี่ GNC และรุ่น 13 เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เวลามีปัญหาหรืออยากแชร์จิตใจก็สามารถพูดคุยกันได้อย่างใกล้ชิด ต่อด้วยเดินทางไปเล่นน้ำที่ชายหาดชะอำ ทำให้รู้สึกว่าเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ที่วิเศษที่สุด ผ่านทางงาน Reunion ครั้งนี้ มี GNC มากมายที่ห่างหายกันไปได้กลับมารวมตัวอีกครั้งและเกิดจิตใจที่อยากกลับมาฟังพระคำ มาหาเพื่อนๆ ที่เปรียบเสมือนคนในครอบครัว เป็นการเติมพลังให้กับจิตใจ และได้กลับมาพักผ่อนในพระเจ้าอีกครั้ง😉🌹
