เมื่อวันที่ 19-20 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา  IYF  ประเทศไทยได้มีการจัด IYF Dance camp ขึ้นที่ศูนย์ฝึกอบรม IYF Center ลาดพร้าว 140 โดยมีผู้เข้าร่วมจากทั่วประเทศเป็นนักเรียนมัธยมปลายไปจนถึงนักศึกษารวมจำนวนกว่า 120 คน

 

 

การจัดค่ายเต้นครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เยาวนชนไทยกล้าแสดงออกในทางที่สร้างสรรค์และเพื่อสร้างผู้นำแห่งโลกอนาคตด้วย กิจกรรมในวันแรกนั้นเน้นให้ผู้เข้าร่วมทำความรู้จักกับ IYF และเพื่อนในแคมป์ เริ่มจากการเต้น TRS และ Culture Dance  ,Mind Recreation ,Mind Training และต่อด้วย Group Meeting เพื่อให้เด็กๆ ได้เปิดใจพบกับมิตรภาพจากเพื่อนใหม่ๆ ในกลุ่ม

อาจารย์คิม ฮัก ชอล ที่ปรึกษาอาวุโสของมูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ ได้บรรยายเกี่ยวกับแพนควิน “แพนกวินเดินทางไกลทนลม ทนหนาว ทนหิว และใช้วิธี “Huddling” คือการกอดกันไว้เป็นกลุ่มเพื่อเอาชนะแรงลมที่พัดมาระหว่างเดินทางไป Omuk เพื่อคลอดลูกแพนกวิน 1 ชีวิต หากพวกคุณอยากมีความสามารถในการเต้น คุณต้องมีพลังในการเอาชนะความเหนื่อย ฉะนั้น IYF จึงจัดแคมป์นี้มาไม่ใช่เพื่อให้เราเต้นเก่งอย่างเดียว แต่เพื่อฝึกจิตใจของพวกคุณให้เรียนรู้สติปัญญาจากคนรอบข้างเพื่อที่จะได้มีพลังเอาชนะความยากลำบาก จิตใจที่สิ้นหวังและเป็นผู้นำคนอื่นในอนาคต”

นอกจากนี้ ภายในงาน อาจารย์คิม ดาวิดยังได้บรรยายเรื่อง ‘การค้นพบ’ เราต้องค้นพบตัวเองไม่ใช่ว่าตัวเองเก่งอย่างไร แต่ต้องค้นพบว่าเราอ่อนแอตรงไหน บกพร่อง เราจึงจะสามารถเรียนรู้และพัฒนาต่อไปได้ สามารถฟังเสียงและเข้าใจคนอื่นได้

เกมสันทนาการช่วยให้เด็กๆสนิทกันง่ายขึ้น

                ‘กิจกรรมสันทนาการ’ เด็กๆได้ทำความรู้จักกันอย่างรวดเร็วผ่านทางการเล่นด้วยกัน โดยแบ่งกลุ่มเป็น 4 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มช่วยกันตอบคำถามเกี่ยวกับเพลงให้เร็วที่สุดและพร้อมเพรียงกันที่สุด เพื่อเน้นให้เกิดการพูดคุยและการตกลงกันในกลุ่ม ถือเป็นการละลายพฤติกรรมที่สนุกสนาน และช่วยเปิดใจของเด็กๆ ก่อนที่จะเข้าสู่ชั้นเรียนเต้นในวันถัดไป ปิดท้ายวันแรกด้วยการ Group Meeting  กับรุ่นพี่ทีมเต้นของ IYF

พี่ภัทรให้ความรู้เกี่ยวกับการรักษาหุ่น

พี่ฮิวโก้ และพี่ไก่โต้งนำน้องๆ ออกกำลังกายอย่างถูกวิธี

 

เริ่มวันใหม่ด้วยการออกกำลังกายและเรียนเกี่ยวกับสุขภาพในช่วงเข้า โดยมีผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้เรื่องการรักษาหุ่นและการออกกำลังกายที่ถูกต้องแก่น้องๆ ด้วยไม่ว่าจะเป็นพี่ภัทร นักกีฬาฟันดาบ ,พี่ไก่โต้ง ทหารฝึกและอดีตนักรักบี้มหาวิทยาลัย และพี่ฮิวโก้ นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา ซึ่งทั้ง 3 คนเคยเป็นอาสาสมัครโครงการ Good news corps ที่ต่างประเทศมาแล้ว นอกจากจะให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ ‘กาย’ ให้น้องๆได้แล้ว ยังสามารถให้ความรู้เกี่ยวกับจิตใจด้วยว่าเราควรเตรียม ‘จิตใจ’ก่อนเป็นสิ่งแรก เพราะทุกอย่างเริ่มต้นที่จิตใจ

ในชั้นเรียน Health&Fitness เด็กๆ ยืดร่างกายตามที่คุณครูแนะนำ

เรียนรู้การเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนการเต้น

 

เข้าสู่การเรียนเต้น ในชั่วโมง Dance Basic ชั้นเรียนที่สอนเกี่ยวกับ ‘ท่าเต้นพื้นฐาน’ ที่คนชอบเต้นควรรู้ น้องๆ ในแคมป์ให้ความสนใจ และตื่นเต้นอย่างมาก เพราะเป็นเรื่องที่บางคนไม่เคยรู้ว่าก่อน  โดย IYF ได้รับการสนับสนุนจาก ‘B House Studio’ ในการส่งคุณครูอาสาสมัครมาช่วยให้ความรู้กับเด็กๆ ด้วย ซึ่งในชั้นเรียนการเต้นพื้นฐานนั้นมีทั้ง การเต้นแนว Hip Hop,Jazz,Popping ,Street Dance,K-pop เพื่อให้น้องๆ ที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบเต้นแนวไหนได้ค้นหาตัวเองและรู้สึกได้เข้าใกล้กับการเต้นทีละนิดละนิดด้วย

ชั้นเรียนการเต้น Street Jazz จากครูปอนด์ เด็กๆ ตั้งใจเรียนกันมาก

 

เรียนท่าเต้นพื้นฐานที่คนชอบเต้นควรรู้

                ต่อมาเป็นการเรียนการเต้นเฉพาะแนวซึ่งมี 2 แนว คือ Jazz Dance และ Hip Hop Dance  จะสังเกตได้ว่าเด็กๆ จะชอบ Jazz Dance เป็นพิเศษ เพราะเต้นตามง่าย สนุกสนาน โดยไม่จำเป็นต้องไม่พื้นฐานมาก่อน ต่อมาเป็นการเต้นแบบ Hip Hop แม้จะยากไปนิดเพราะต้องใช้ทักษะ บางคนเต้นไม่ได้แต่ก็พยายามทำตามเรื่อยๆ นี่คือจุดที่ทำให้เปิดใจได้ทั้งคนเรียนและคุณครูผู้สอนด้วยเพราะพอคุณครูได้เห็นว่าเด็กๆ มีความพยายามจะทำตามคุณครูก็รู้สึกมีความสุขและอยากสอน นอกจากนั้นยังมีชั้นเรียนเต้น K-pop Dance ได้รับเกียรติจาก ‘คุณครูพลอย’ ที่อาสามาช่วยสอนท่าและเทคนิคให้ด้วย

หลังจากเรียนแล้วลองเต้นตามคุณครูกันดูบ้าง

ชั้นเรียนเต้น K-pop

                ช่วงบ่ายเริ่มด้วยการเรียนเต้น TRS เพลง  When Can I see you again ซึ่งเป็นการเต้นแบบ Official Dance Team ของ IYF เท่านั้น ต่อด้วยการแบ่งกลุ่มเป็น 8 กลุ่มสำหรับทำการแสดงร่วมกันบนเวทีในช่วง Showcase เพื่อให้น้องๆได้นำสิ่งที่เรียนในแคมป์มาใช้ในการแสดง ระหว่างเตรียมการแสดงน้องๆ แต่ละกลุ่มได้มีการหาลือกันเรื่องเพลงที่จะใช้เต้น  ช่วยกันคิดท่าเต้นต่างๆ และเพื่อนที่เต้นเก่งกว่าก็ต้องคอยสอน คอยช่วยเหลือเพื่อนคนอื่นเพื่อให้ทีมไปด้วยกัน ทำให้นอกจากจะได้ทบทวนสิ่งที่ได้จากการเรียนแล้วยังช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีกันในกลุ่มด้วย

ปรึกษากันในกลุ่มเตรียมขึ้นโชว์บนเวที

 

พักทานของว่างจาก D-Plus และ น้ำส้มนายหัวก่อนขึ้นไปโชว์บนเวที

 

หลังจากที่ทุกกลุ่มออกมาแสดงแล้ว ปิดท้ายด้วยการแสดงจาก B House Studio จำนวน 2 ชุด เป็นการเต้นแนว Hip hop และคอนเทมโพรารี แดนซ์เป็นการเต้นแบบมืออาชีพแม้ผู้ที่ทำการแสดงนั้นก็ยังเป็นนักเรียน นักศึกษาก็ตาม ทำให้น้องๆที่เข้าร่วมแคมป์เกิดกำลังใจและมีแรงบันดาลใจในการเรียนเต้นต่อไปด้วย อย่างที่อาจารย์คิมฮักชอลได้บรรยายไว้เราจะเต้นให้เก่งได้ไม่ใช่ด้วยความพยายามของตัวเองแต่เป็นการได้รับพลังมาจากคนอื่น

การแสดงจากฝ่ายชาย

เต้นด้วยสีหน้าที่มีความสุขขณะโชว์บนเวทีแบบนี้คนดูก็มีความสุขไปด้วย

ShowCase ปิดท้ายด้วยการเต้นเทมโพรารี แดนซ์จากน้องๆ B House Studio

ครูปอนด์อายุ 17 ปีแต่ก็ลองเป็นครูสอนคนอื่นดู แม้จะลำบากแต่ก็ช่วยผลักดันให้ครูได้เติบโต

                จริงๆแล้วเต้นตั้งแต่เด็กแล้ว พอเราโตขึ้นต้องเรียนด้วยแต่ก็ยังต้องหาเวลาซ้อมเพื่อให้พัฒนาตลอด บางครั้งก็รู้สึกขี้เกียจ กลับบ้านดึก ไม่อยากซ้อมแต่สุดท้ายเราต้องทำให้เต็มที่ ต้องบังคับตัวเองให้ได้ มันเหนื่อยมาก ยากลำบาก ส่วนแคมป์ครั้งนี้พัฒนาการของเด็กในแคมป์ ตอนแรกน้องก็เกร็งบ้าง แต่ว่าน้องดูตั้งใจและอยากจะเรียนจริง พอเห็นแล้วก็อยากสอนด้วย สำหรับคนที่สนใจการเต้นแต่เต้นไม่เป็น หรือกำลังกลัวอยู่ ก็อยากให้ลองมาแคมป์นี้ก่อนเพื่อที่จะได้รู้ว่าตัวเองชอบเต้นจริงหรือเปล่า -ปอนด์ (วิทยากรผู้สอนเต้น)

ครูเบ๊นซ์ขณะสอนนักเรียนเต้น Hip Hop Dance

“ทุกคนให้ความร่วมมือดี ครั้งแรกมาเจอแบบนี้ก็รู้สึกดีครับ พัฒนาการของน้องๆ จากที่ไม่มีพื้นฐานเลยแต่ด็กในค่ายค่อนข้างพัฒนาการไวมาก สอนท่ายากก็ตามได้ ผมรู้สึกว่าน้องๆยังไปได้อีกไกล น้องดูมีความสุขในการเต้นด้วย การลองเต้นแค่ครั้งสองครั้งมันตอบไม่ได้ว่าเราชอบจริงหรือเปล่า เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนเรียนรู้เรื่อยๆครับ ลองเริ่มจากการมาเข้าแคมป์ก่อนก็ได้ ผมอยากร่วมงานกับ  IYF อีกเพราะเด็กที่นี่เวลาเรียนเต้นแล้วเขาติดตามดีและดูมีความสุขมาก”- เบ๊นซ์ (วิทยากผู้สอนเต้น)

 

 

ครูแบงค์ขณะพูดคุยกับเด็กๆที่มาเข้าร่วมแคมป์

                “ปกติทุกวันนี้องค์กรเรามีจุดประสงค์ในการพัฒนาเด็ก เปิดโอกาสให้เด็ก จูงนำเด็กไปในทางที่ควรเป็นและชี้ให้เขาเห็นว่าเราเต้นไปเพื่ออะไร ได้ประโยชร์อะไร ผมรู้สึกว่าจุดประสงค์ของเราและ IYF ค่อนข้างตรงกัน ผมเลยอยากร่วมงานกับ IYF  ส่วนถ้าพูดถึงเรื่องการท้อแท้ระหว่างทาง ผมอยากให้ทุกคนอดทน ลองข้ามขีดจำกัดของเราดูสักพักหนึ่งมันจะส่งผลในอนาคตแน่นอน ตั้งเป้าหมายให้สูง ฝึกฝน หาความรู้อย่างถูกต้องแล้วเราจะไปได้ไกลมากครับ”- แบงค์ (วิทยากรผู้สอนเต้น/เจ้าของ B house Studio)

 

                “หนูเคยเข้าร่วมทีมกับ IYF ไปเต้นที่ World camp ประเทศเกาหลีใต้แล้วก็รู้สึกว่าอยากมีส่วนร่วมกับ IYF เรื่อยๆ จึงมาเข้าร่วม Dance Camp ตอนแรกรู้สึกว่าตารางในแคมป์แน่นมาก แต่พอได้ทำกิจกรรมมากกว่าการได้เต้นคือ เราได้เรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น การได้รับความช่วยเหลือ เราได้เห็นตัวเองผ่านทางการบรรยายว่าจริงๆ เราไม่ได้เป็นคนเต้นเก่ง เราจึงต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ในทีมค่ะ ส่วนตัวอยากไปเป็นอาสาสมัครต่างประเทศแบบพี่ๆสต๊าฟในแคมป์ด้วย”- มิ้ง (นักศึกษา/ 19 ปี)

น้องริว (ผู้ชาย) ขณะสอนเพื่อนๆในกลุ่มเตรียมการแสดงบนเวที

                “ผมเป็นคนชอบเต้นตั้งแต่เด็กๆ แต่พอเข้ามัธยมปลายก็เลิกเต้น แต่วันหนึ่งได้เจอเพื่อนที่โรงเรียนที่เขาเป็นคนชอบเต้น ทำให้จิตใจที่ชอบเต้นของผมฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ผมว่ามันเหมือนกับที่อาจารย์บรรยายในแคมป์ว่านกแพนกวินขนาดเป็นสัตว์ยังไม่ยอมแพ้กับเป้าหมายแล้วเราเป็นคนทำไมถึงชอบล้มเลิกง่ายๆ เวลาเจอความยากลำบาก และที่สำคัญคือแพนกวินเขา Huddling กันเกาะกันเป็นกลุ่มทำให้เอาชนะแรงลมที่พัดมาได้ ผมเองได้มาเต้นอีกครั้งก็เพราะมีเพื่อนด้วย อาจารย์บอกว่าให้เรียนรู้จากเพื่อน แคมป์นี้สอนให้ผมได้เรียนรู้จากคนรอบข้างเยอะเลยครับ” ริว (นักเรียน /อายุ 17 ปี)

 

แม้ว่าจะมีระยะการจัดงานสั้นๆเพียง 1 วัน 1 คืน แต่สมาชิก IYF เชื่อว่าผู้เข้าร่วมจะได้รับประสบการณ์ ความรู้เกี่ยวกับการเต้นได้ผ่านทางการเรียนรู้จากคนอื่น ตามจุดประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ ให้ทุกคนได้เรียนรู้จักการสังเกตคนอื่นแล้วนำมาใช้ ทั้งนี้อาจารย์คิมฮักชอลยังทิ้งท้ายไว้ด้วยว่าอยากให้เด็กไทยใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และมีความหวังว่านักเรียนจะได้มาร่วมงานกับ IYF เยอะขึ้นเรื่อยๆ