เมื่อวันที่ 16-17 มกราคม 2564 ที่มูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ (International Youth Fellowships : IYF) ประจำประเทศไทย ได้จัดงาน Online Korean Camp 2021 ในรูปแบบออนไลน์ผ่านโปรแกรมซูม (Zoom) โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 300 คน ที่มาจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย เป็นกิจกรรมที่หลายๆ คนรอคอยมาก เพราะในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 แบบนี้ ไม่สามารถออกไปพบปะหรือทำกิจกรรมได้อย่างปกติ แต่ผ่านรูปแบบออนไลน์นี้ทำให้ได้รับความสนุกหรือสาระที่ครบไม่ต่างจากการเข้าร่วมแบบออฟไลน์เลย

วอร์มร่างกายกันด้วยกิจกรรมคลาส K-pop Dance สอนเต้นในเพลง “MY TREASURE” เพลงที่หลายคนยังไม่คุ้นเคยกับท่าเต้นเพราะเป็นเพลงที่เพิ่งปล่อยออกมา และค่อนข้างยาก แต่ถึงแม้ว่าเป็นกิจกรรมผ่านออนไลน์ และในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ก็สามารถเต้นตามได้อย่างสนุก ไม่มีน้องๆ ที่ปิดกล้อง หรือเขินอายเลย ส่วนมากลุกขึ้นมาเต้นตามครูได้ บางคนเข้าร่วมที่ห้อง บางคนอยู่สวนสาธารณะ บางคนอยู่ที่ทำงาน แต่สามารถลุกขึ้นมาเต้นตามได้เกือบทั้งหมด

สำหรับการเรียนภาษาเกาหลี หรือ Korean Class มีน้องๆ บางส่วนที่เข้าร่วมโดยที่ไม่เคยเรียนหรือคุ้นเคยภาษาเกาหลีมาก่อน แต่การสอนครั้งนี้พิเศษมากๆ เพราะพี่ๆ อาสาสมัครจัดเตรียมการสอนจากประสบการณ์ที่เคยเป็นอาสาสมัครที่เกาหลี ระหว่างที่สอนจะมีการเรียกน้องๆ ผ่านหน้าจอเพื่อให้ลองถาม-ตอบ ซึ่งทุกคนก็ออกเสียงตาม และกล้าแสดงออกได้อย่างดี ทำตามคำสั่งที่เป็นภาษาเกาหลีได้ด้วย 

ปลุกความเป็นศิลปินและสนุกกันต่อกับ Korean Singing ช่วงเวลาที่น้องๆ  ได้ผ่อนคลายไปกับการร้องเพลง “Say Yes” ประกอบซีรีส์เรื่อง  “Moon Lovers” โปรแกรมการสอนร้องเพลงผ่านทางออนไลน์แบบนี้อาจจะดูเป็นเรื่องยาก แต่ว่าสำหรับน้อง ๆ เองก็ดูเหมือนจะไม่สามารถร้องตามได้ โดยตอนที่สอนจะเลือกน้องๆ และให้เปิดไมค์แล้วร้องตามจังหวะดนตรี คนที่ถูกเลือกสามารถที่จำเนื้อร้องภาษาเกาหลี และร้องออกมาได้ดีมากๆ แม้ว่าบางคนอาจจะอายบ้าง ร้องไม่ตรงจังหวะด้วย แต่ก็ร้องออกมาด้วยใจที่มีความสุขมาก ๆ

มาถึงกิจกรรมที่เป็นที่ถูกอกถูกใจของทุกคน คือ Culture Shock กิจกรรมที่อาสาสมัครต่างชาติแบ่งปันประสบการณ์วัฒนธรรมแปลกๆ ที่เจอที่ประเทศไทย ซึ่งสำหรับคนไทยอาจจะไม่ได้ดูแปลก แต่เมื่อทุกคนได้ฟังประสบการณ์ในส่วนนี้ก็หัวเราะ และสนุกมาก ๆ ทั้งการที่อาสาสมัครพูดภาษาไทยได้ และเล่าเรื่องได้อย่างเห็นภาพได้ชัดเจน อย่างเช่น ทำไมคนไทยกินข้าวเหนียวด้วยมือ   

ช่วงเทควันโด (Taekwondo) การเรียนศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิมจากชาวเกาหลีใต้ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่หลายๆ คน ไม่ค่อยได้สัมผัสเพราะเป็นวัฒนธรรมเฉพาะของทางเกาหลีใต้ เริ่มกิจกรรมด้วยออกกำลังกายแบบเบาๆ เพื่อเตรียมพร้อมกล้ามเนื้อ จากนั้นเริ่มสอนท่าแบบพื้นฐาน ซึ่งน้องๆ ก็ทำตามได้ทุกท่า มีการเปิดกล้องและโชว์ท่าทาง บางคนมีพื้นฐานก็สามารถทำตามง่าย แต่สำหรับบางคนที่ไม่มีพื้นฐานเลยก็มีท่าทางเก้ๆ กังๆ แต่ก็ให้ความร่วมมือทำตามครูทุกท่า ระหว่างร่วมกิจกรรมก็มีการแชทพูดคุยกันตลอดกับเพื่อนๆ ที่อยู่ใน Zoom ทำให้สนิท และรู้จักกันมากขึ้นด้วย

ช่วงสำคัญที่สุดของงาน คือ Mind Lecture อาจารย์คิม ฮักเชิล ผู้ก่อตั้ง IYF ประทศไทย ได้บรรยายเรื่องราวของจิตใจให้แก่น้องๆ โดยบรรยายว่า สามีภรรยาคู่หนึ่งที่ได้แต่งงานกัน ในช่วงแรกก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่อยู่ๆ สามีก็มีความคิดว่าภรรยานอกใจ เมื่อไหร่ที่ออกไปนอกบ้าน ก็คิดว่าภรรยาไปดื่มกาแฟกับผู้ชายคนอื่น ทั้งที่ไม่เคยเห็น และไม่รู้อย่างชัดเจนว่าเป็นความจริงหรือไม่ จนทำให้ชีวิตคู่ไม่มีความสุข คือ ความคิดของตัวเอง กำลังลากเขาไปสู่ความมืด เหมือนกับเราที่หลายครั้งเชื่อว่าหากว่ามีเงินเยอะแล้วจะทำให้มีความสุข ดูดาราศิลปินที่ชอบแล้วจะมีความสุข แต่นี่ไม่ใช่ความจริง แต่หากเราเห็นว่าความคิดของตัวเองเหมือนขยะ ก็จะสามารถทิ้งความคิดตัวเอง และรับเสียงของคนอื่นเข้ามาในจิตใจได้ ถ้าสามีเห็นว่าความคิดของตัวเองผิด ก็จะได้ยินเสียงภรรยา และใช้ชีวิตแต่งงานอย่างมีความสุขได้เช่นกัน

ช่วง Mind Talk ได้พูดคุยประสบการณ์ และรับแรงบันดาลใจจากรุ่นพี่ โดยใช้ห้อง แชทส่วนตัวพูดคุยกัน เป็นโปรแกรมที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นช่วงเวลาแบ่งปันเรื่องราวจิตใจระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้องผ่านทางพระคัมภีร์ไบเบิล ที่ทำให้เราได้เห็นถึงใจที่เป็นปัญหา แต่ก็สามารถได้รับการแก้ไขได้ด้วยเช่นกัน ด้วยประสบการณ์การฝึกฝนจิตใจที่เข้มแข็งผ่านทางโปรแกรมอาสาสมัครได้ทำให้น้องๆ เองที่ไม่เคยพูดเรื่องราวของจิตใจ และหลายอย่างที่เป็นปัญหา ผ่านทางโปรแกรมนี้ก็ได้รับจิตใจใหม่ภายในค่ายได้มากมาย