10553511_622291757868824_6119301491106034877_n

 

มูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ (ไอวายเอฟ) ประจำประเทศเกาหลีใต้ ร่วมกับหนังสือพิมพ์ “โคเรีย เฮรัลด์” และรัฐบาลท้องถิ่นเมืองปูซานจัดงาน “Tomorrow Global Leaders’ Camp” (ทีจีแอลซี) ขึ้นที่ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ “เบ็กซ์โก” เมืองปูซาน โดยเชิญตัวแทนเยาวชนจากทั่วโลกกว่า 400 คน เข้าร่วม ภายในงานยังประกอบไปด้วยการประชุมรัฐมนตรีเยาวชนโลกซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 แล้ว และมีรัฐมนตรี รวมทั้งตัวแทนรัฐบาลจากกว่า 20 ประเทศเข้าร่วม โดยประเทศกัมพูชา หนึ่งในสมาชิกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ส่งนายเซียน โบรัต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการและการกีฬา เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเยาวชนในค่าย ท่ามกลางเสียงโห่ร้องดีใจของเยาวชนกัมพูชาที่เห็นผู้แทนรัฐบาลของตนเดินเข้าสู่งาน

ตัวแทนเยาวชนจากกว่า 30 ประเทศ ที่เข้าร่วมงานจะได้รับโอกาสให้เข้าฟังทัศนคติและปัญหาเยาวชนจากรัฐมนตรีและตัวแทนจากรัฐบาลซึ่งจะขึ้นพูดที่ “นูริมารุ เอเปคเฮ้าส์” สถานที่จัดประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่ประเทศเกาหลีใต้เมื่อปี 2548 ซึ่งเนื้อหาในงานนอกจากจะมีตัวแทนรัฐบาลให้ความรู้และแลกเปลี่ยนความเห็นกับเยาวชนอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังมีการเชิญแขกรับเชิญพิเศษได้แก่ นายลี คยู-ฮุก นักกีฬาสเกตทีมชาติชื่อดังของเกาหลีใต้ที่เคยคว้าเหรียญรางวัลหลายครั้งในการแข่งขันสเกตระดับโลก ดร.ลี มยุง-โก หนึ่งในคณะกรรมการสัมภาษณ์นักบินอวกาศเกาหลี นายคิม โฮ-ซุง ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง นายอ็อก ซู พาร์ค และนายเทอร์รี เฮนเดอร์สัน ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญหาเยาวชน ร่วมบรรยายเพื่อให้ความรู้

แนวคิดของการสร้างเยาวชนเกาหลีใต้นั้นไม่ได้ต้องการให้เด็กเป็นเด็กที่เรียนเก่งหรือมีความสามารถเท่านั้น แต่ต้องการที่จะปลูกจิตสำนึกที่เรียกว่า “โลกทัศน์สากล” ให้กับเยาวชนด้วย เนื่องจากผู้นำในโลกอนาคตที่พวกเขาคาดหวังนั้นจะเป็นผู้ที่สามารถเข้าใจลักษณะและจิตใจของผู้คนที่มาจากต่างประเทศ ต่างชาติ ต่างเผ่าพันธุ์ ต่างความคิดได้โดยไม่ใช้กรอบวัฒนธรรม กรอบความคิดหรือกรอบสังคมของตนเองตัดสินการกระทำของผู้อื่นว่า เป็นสิ่งที่ผิด ทั้งที่จริงเป็นเพียงแค่ความแตกต่างที่ไม่เหมือนกันเท่านั้น

ค่าย “ทีจีแอลซี” ที่จัดขึ้นนี้ ดำเนินการโดยเยาวชนเกาหลีที่มีเพียงผู้ใหญ่คอยช่วยให้คำปรึกษาอยู่ห่าง ๆ เกาหลีเองก็กล้าที่จะเสี่ยงมอบบทบาทสำคัญไม่ว่าจะเป็นการวางแผนรวมทั้งจัดเตรียมการประชุมระดับรัฐมนตรีให้กับเยาวชนของพวกเขาเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อปูทางให้เกิดผู้นำที่ดีในอนาคต โดยเยาวชนที่เข้ามารับหน้าที่จะต้องมีความรับผิดชอบ เข้าใจและรับฟังความเห็นของผู้อื่นให้มาก เนื่องจากผู้เข้าร่วมมาจากหลากหลายชาติ จะตำหนิไม่ได้ว่า ทำไมพวกเขาถึงมีพฤติกรรมไม่เหมือนพวกตน แต่ต้องเข้าใจในความต่างซึ่งจะนำไปสู่การปรับตัว ปรับปรุงจนเกิดความสมานฉันท์ของคนในค่ายทั้งเหล่าตัวแทนรัฐบาลและเยาวชนผู้เข้าร่วม

นายยอง-ฮุน ปาร์ค นักศึกษาคณะวิศวกรรม มหาวิทยาลัยโคเรีย มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังระดับแนวหน้าของเกาหลีใต้ ประธานจัดงานค่ายเยาวชนครั้งนี้ กล่าวว่า พวกเขาต้องทำงานหนักมาก เนื่องจากงานเป็นงานใหญ่ระดับชาติ ต้องใช้เวลาวางแผนนานและต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างมาก นายปาร์คเผยว่า ปัญหาที่เขาพบมากที่สุดคือ ปัญหาการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่กันเองในกระบวนการตัดสินใจ เนื่องจากบางคนกล่าวกับเขาว่า พวกเขาไม่ทราบข้อมูลบางส่วนทำให้ไม่ได้รับโอกาสให้เสนอความคิดเห็น ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเริ่มปิดใจกับการเป็นผู้นำของนายปาร์ค รวมทั้งการเตรียมงานของค่ายด้วย ปัญหาอีกประการที่นายปาร์ครู้สึกยากลำบากคือ ความไม่ไว้ใจกันระหว่างเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเราต้องทำงานร่วมกัน ความไว้วางใจให้ผู้อื่นทำงานจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

นายปาร์คกล่าวว่า เขาเองก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่คาราคาซังในหมู่เจ้าหน้าที่ด้วยกันเองได้เต็มร้อย และคิดว่าไม่ว่าอย่างไรก็อาจทำไม่ได้ แต่สิ่งที่เขาต้องเรียนรู้ที่จะเป็นผู้นำเพื่อจะประคับประคองสถานการณ์คือ ต้องถ่อมจิตใจ ให้จิตใจและความคิดผู้อื่นได้ไหลเวียนกับเขามากที่สุด แม้ในบางครั้งเขาเองคิดว่า สิ่งที่เขาตัดสินใจทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่เขาไม่สามารถจะยืนยันสิ่งที่เขาคิดได้เสมอไป เนื่องจากจิตใจที่ถ่อมลงและเป็นผู้ยอมผิดเท่านั้นที่จะสามารถทำให้งานใหญ่สำเร็จลุล่วงไปได้ นายปาร์คเผยว่า เขาไม่ได้เป็นคนที่เก่งที่สุด แต่เขาได้มายืนในจุดสำคัญของงานสำคัญ เนื่องจากเขาเคยใช้ชีวิตเป็นอาสาสมัครในประเทศจาเมกาเป็นเวลา 1 ปี ได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้มาปรับใช้ นอกจากนี้ เขายังเคยได้รับการฝึกฝนจิตใจจากนักพัฒนาเยาวชนของเกาหลีและอเมริกันอย่าง นายอ็อก ซู พาร์ค และนายเทอร์รี เฮนเดอร์สัน ที่สอนเรื่อง “โลกของจิตใจ” ให้แก่เขา ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองกล่าวตรงกันว่า มนุษย์ล้วนมีรสชาติที่แตกต่างกันออกไป บางคนเหมือนลูกกวาดที่มีรสหวาน บางคนเหมือนทุเรียนที่มีกลิ่นฉุนและหนามแหลมแต่ถ้าได้ลิ้มลองรสชาติภายในเปลือกจริง ๆ แล้วจะรู้สึกว่า ทุเรียนเป็นผลไม้ไทยที่อร่อยมาก  ดังนั้นการไหลเวียนจิตใจเพื่อให้รู้จักรสชาติของซึ่งกันและกันนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเป็นผู้นำ

นายพาร์คและนายเฮนเดอร์สันเผยว่า มนุษย์เราต่างมีความรู้สึก ซึ่งความรู้สึกนี้เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาจึงไม่สามารถเชื่อถือมันได้ ตัวอย่างเช่น ความรู้สึกรักแรกพบที่มักอยู่ได้ไม่นานหลังจากรู้จักกันอย่างจริงจัง ตรงกันข้ามในเรื่องราว “โลกของจิตใจ” ของมนุษย์นั้น เป็นเรื่องของ “การได้รับ” ดังนั้น เมื่อมีปัญหาหรือความไม่เข้าใจกันเกิดขึ้นระหว่างคนหรือกลุ่มบุคคล การสื่อสารเพื่อให้ได้รับจิตใจของฝ่ายตรงข้ามถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างการยอมรับ รวมทั้งความเข้าใจซึ่งกันและกันเพื่อสมานฉันท์ได้ นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้จิตใจเข้มแข็งขึ้นด้วย

แนวคิดหลักของค่ายเยาวชนครั้งนี้ ไม่ได้ต้องการให้เยาวชนกล้าแสดงออกถึงความคิดเห็นของตนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการที่จะสร้างผู้นำที่สามารถทำงานด้วยใจได้ คือเต็มใจที่จะทำแม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่ชอบหรือผลจะไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง อย่างไรก็ตาม ผู้นำในโลกอนาคตที่เกาหลีคาดหวัง รวมทั้งมองหานั้นคือเยาวชนที่จะเติบโตและสามารถจูงนำจิตใจของคนอื่นได้ ไม่ยืนยันความเห็นของตนเองมากจนเกินไป รู้จักมองมุมต่างเพื่อที่จะอยู่ในสังคมอย่างสันติ

นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังเข้าใจอย่างชัดเจนว่า คนทุกคนต้องพบกับขีดจำกัดในชีวิตของตนเอง แม้ในใจจะคิดฝันต้องการจะเป็นผู้นำมากเพียงใด แต่สิ่งที่จะทำให้เยาวชนของพวกเขาสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเองได้คือ การมีความฝันและความหวัง ที่มีหลักการอยู่เพียง 3 ข้อ ได้แก่ 1. ลบคำว่า “เป็นไปไม่ได้ทิ้งไป” 2. เรียนรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ และ 3. ฝันถึงคำว่า “ดีที่สุดในโลก” เหมือนอย่างที่นักสเกตน้ำแข็งเหรียญทองโอลิมปิก “คิม ยูนา” เคยวาดฝันไว้เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก เมื่อชีวิตเยาวชนมีเป้าหมายและความฝันนั้นก็จะทำให้เกิดความคิดและการแสวงหาทางออกเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย ซึ่งนักพัฒนาเยาวชนกล่าวว่า พวกเขาไม่ต้องการความคิดครั้งแรกของเด็ก แต่ต้องการให้เยาวชนฟังความคิดครั้งที่สองของตนเอง ไม่เดินตามเสียงแรกที่เข้ามาอย่างไม่ตั้งใจและเหมือนเป็นสัญชาตญาณ แต่ต้องการให้ติดตามความคิดที่ได้รับการไตร่ตรองดีแล้วมากกว่า

อย่างไรก็ตาม หากแนวคิดดังกล่าวได้นำมาปรับใช้เพื่อปูทางให้เยาวชนไทยกลายเป็นผู้นำที่เข้าใจผู้อื่นและรู้จักการไหลเวียนจิตใจ อนาคตของความสมานฉันท์ของประเทศคงเกิดขึ้นได้ในอีกไม่ช้า.

http://www.dailynews.co.th/Content/Article/253459